สันติภาพกับการพัฒนาเป็นประเด็นใหญ่ของยุคปัจจุบัน แต่โลกยังคงไม่ค่อยสงบนัก ลัทธิครองความเป็นเจ้าและการเมืองที่ถืออำนาจตนเป็นใหญ่ยังไม่ได้หมดไป ลัทธิเอกภาคีและลัทธิกีดกันทางการค้าผงาดขึ้น ระบบระหว่างประเทศที่มีสหประชาชาติเป็นแกนหลัก และระเบียบระหว่างประเทศที่ถือกฎหมายระหว่างประเทศเป็นพื้นฐานเผชิญกับการท้าทาย สถานการณ์การระบาดโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งเกิดการเปลี่ยนแปลงรอบ 100 ปีเร็วขึ้น โลกที่เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและมีความปั่นป่วนต้องการการกำหนดทิศทางก้าวไปข้างหน้าอย่างชัดเจนโดยเร็ว คำมั่นสัญญาอันหนักแน่นของผู้นำจีนสะท้อนให้เห็นว่า จีนจะเป็นพลังที่มั่นคงแห่งการผดุงสันติภาพของโลกตลอดไป
วันที่ 3 กันยายน ที่หออนุสรณ์รำลึกสงครามต้านทัพญี่ปุ่นแห่งประชาชนจีน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนพร้อมผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลคนอื่น ๆ ได้เข้าร่วมพิธีวางตะกร้าดอกไม้รำลึกวีรชนผู้สละชีพ เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีแห่งชัยชนะสงครามต้านทหารญี่ปุ่นของประชาชนจีน และสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ของโลก การที่จีนจัดกิจกรรมรำลึกอย่างจริงจังนั้น บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของจีนในการร่วมกับประชาคมโลก ผลักดันภารกิจอันสูงส่งแห่งการพัฒนาและสันติภาพของโลก
วันเดียวกันนี้ นายสี จิ้นผิงกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ส่งโทรเลขแสดงความยินดีถึงกัน เนื่องในโอกาสดังกล่าว ปธน.สี จิ้นผิงเน้นว่า จีนกับรัสเซียต่างก็เป็นประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แบกรับความรับผิดชอบสำคัญต่อภารกิจสันติภาพและการพัฒนาของโลก ข้าพเจ้ายินดีร่วมกับ ฯพณฯ ในการใช้ความพยายามต่อไป ร่วมกับประชาคมโลกปกป้องชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และความถูกต้องเป็นธรรมระหว่างประเทศอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ปกป้องและปฏิบัติตามลัทธิพหุภาคีอย่างแข็งขัน ผลักดันการสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน ให้ชนรุ่นหลังสามารถอยู่บนโลกที่มีสันติภาพ ความปลอดภัยและความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน
เมื่อ 5 ปีก่อน ขณะกล่าวคำปราศรัยสำคัญในโอกาสครบรอบ 70 ปี สงครามต่อต้านการรุกรานจากทัพญี่ปุ่นของประชาชนจีน และการคว้าชัยชนะในสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ของโลกนั้น ปธน. สี จิ้นผิงได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับสันติภาพและการพัฒนาอย่างชัดเจนว่า
“เพื่อสันติภาพ เราต้องปลูกฝังจิตสำนึกที่มั่นคงต่อการมีอนาคตร่วมกันของประชาคมโลก อคติและการเหยียดหยาม ความโกรธแค้นและสงคราม มีแต่จะสร้างภัยพิบัติและความเจ็บปวด การเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาค การพัฒนาที่สันติ ความเจริญร่วมกัน จึงเป็นหนทางที่ถูกต้องของมนุษยชาติ ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกควรปกป้องระเบียบและระบบระหว่างประเทศ ที่ถือวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติเป็นแกนนำ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่ที่ถือความร่วมมือและการรับชัยชนะร่วมกันอย่างแข็งขัน ร่วมกันผลักดันภารกิจอันสูงส่งแห่งการพัฒนาและสันติภาพของโลก”
ปธน.สี ยังกล่าวว่า “เพื่อสันติภาพ จีนจะยืนหยัดหนทางการพัฒนาที่สันติตลอดไป เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ประชาชาติจีนรักสันติ ไม่ว่าได้รับการพัฒนาถึงระดับใด จีนก็จะไม่ตั้งตนครองความเป็นเจ้า จะไม่รุกรานประเทศอื่น และจะไม่ยัดเยียดโศกนาฏกรรมที่ตัวเองเคยประสบให้แก่ชนชาติอื่น ๆ อย่างเด็ดขาด ประชาชนจีนจะยืนหยัดการอยู่ร่วมกันฉันมิตรกับประชาชนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พิทักษ์ผลสำเร็จแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านการรุกรานจากญี่ปุ่นแห่งประชาชาติจีนและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์แห่งโลก ใช้ความพยายามเพื่อสร้างคุณูปการใหม่มากยิ่งขึ้นแก่มนุษยชาติ”
จีนเป็นชาติที่รักในสันติภาพแต่โบราณ และเป็นประเทศแรกที่ลงนามในกฎบัตรแห่งสหประชาชาติ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา จีนยืนหยัดเดินบนหนทางแห่งการพัฒนาที่สันติอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เป็นผู้สร้างสรรค์สันติภาพของโลก เป็นผู้สร้างคุณูปการต่อการพัฒนาของโลก และเป็นผู้พิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศมาโดยตลอด ในช่วงปีหลัง ๆ มานี้ จีนผลักดันการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่และประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ผลักดันการร่วมกันสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และได้เข้าร่วมปฏิบัติการรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติอย่างแข็งขัน
สามารถเชื่อมั่นได้ว่า ในอนาคต ไม่ว่าสถานการณ์โลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จีนย่อมจะเป็นพลังบวกต่อการผดุงสันติภาพของโลกตลอดไปอย่างแน่นอน
Yim/Lu