ปีนี้ เป็นปีสุดท้ายของโครงการหลุดพ้นจากความยากจนของจีน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวย้ำมาโดยตลอดว่า เป้าหมายการหลุดพ้นจากความยากจนนั้นต้องทำให้สำเร็จทันเวลา เนื่องในโอกาสนับถอยหลังสิ้นสุดโครงการขจัดความยากจน เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซีบัญชาการด้วยการแขวนป้าย ระดมกำลังคน และกำลังทรัพย์รวมถึงสิ่งของ เพื่อหนุนช่วย “การสู้รบ” ในแนวหน้า
หมู่บ้านอันหลาน ตำบลหย่งอัน อำเภอปกครองตนเองชนเผ่าเย้าตูอัน เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซี เป็นหมู่บ้านยากจนมาก ปลายปี 2019 จำนวนครัวเรือนที่ยังไม่พ้นจากระดับความยากจนมี 133 ครัวเรือน อัตราการเกิดความยากจนเป็น 30% ปี 2020 ที่นี่ถูกกำหนดให้เป็นหมู่บ้านยากจนที่ต้องบัญชาการด้วยการแขวนป้าย (ที่ต้องเข้าตรวจสอบ) ต่อหน้าภารกิจการพ้นจากความยากจนที่หนักอึ้ง เหล่าข้าราชการและพี่น้องประชาชนต่างเร่งทำงานล่วงเวลา เร่งอัตราเร็วของโครงการดัดแปลงอาคารที่อันตรายและโครงการตู้น้ำในครัวเรือนให้แล้วเสร็จ
หลิว เจิ้นอี่ว์ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำหมู่บ้านอันหลานระบุว่า ปีนี้ โครงการดัดแปลงอาคารที่เป็นอันตรายในหมู่บ้านฯ จำนวน 59 หลัง ดำเนินการเสร็จแล้ว ส่วนโครงการตู้น้ำในครัวเรือนจำนวน 74 ตู้ และโครงการจ่ายน้ำแบบรวมศูนย์อีก 2 โครงการก็ดำเนินการแล้วเสร็จเช่นกัน
สำหรับถนนระดับหมู่บ้านสายใหม่จำนวน 8 สาย ระยะทางทั้งหมด 9.5 กิโลเมตร ได้สร้างเสร็จเรียบร้อย กิจการที่มีอัตลักษณ์ก็กำลังดำเนินไปอย่างจริงจัง ทั้งนี้ คาดว่า รายได้โดยรวมของหมู่บ้านฯ ปีนี้จะมีมากถึง 9 หมื่นหยวน
ที่บริเวณลานหน้าบ้านของอู๋ เหรินชุน ผู้ยากจนในหมู่บ้านเอี้ยนฉา อำเภอปกครองตนเองชนเผ่าต้งซันเจียง ช่างไม้ 3 คนกำลังขะมักเขม้นปลูกเรือนไม้หนึ่งชั้น อู๋ เหรินชุน เล่าว่า บ้านเก่าซึ่งมี 2 ห้อง ชำรุดไปนานแล้ว ปีนี้ เขาจึงยื่นขอเงินอุดหนุนจากโครงการซ่อมแซมอาคารที่อยู่ในสภาพอันตราย แล้วจึงรีบลงมือปลูกบ้านหลังใหม่
เผิง ไห่ปิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำหมู่บ้านเอี้ยนฉาระบุว่า ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ที่นี่เริ่มโครงการดัดแปลงอาคารอันตรายสำหรับชาวบ้านที่เข้าเกณฑ์จำนวน 116 ครัวเรือน ส่วนชาวบ้านจำนวน 10 ครัวเรือนสุดท้ายกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ทันตามกำหนดเวลา
เพื่อหาทางจัดการความยากจนในช่วงโค้งสุดท้าย เดือนมกราคม ปี 2020 มีการเผยแพร่ “แผนบัญชาการด้วยการแขวนป้าย (แผนการตรวจสอบ) เพื่อการหลุดพ้นจากความยากจน ของเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซี” ซึ่งเป็นการวางแผนงานแบบเบ็ดเสร็จ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขตกว่างซีส่งผู้บริหาร “มือหนึ่ง” เข้าประจำการในอำเภอที่ยังไม่พ้นจากความยากจน 8 แห่ง พร้อมด้วยทีมงานที่ส่งไปประจำยังหมู่บ้านตั้งแต่แรก ทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าหน่วยรบ” “เลขาธิการคนที่หนึ่งเพื่อหาทางจัดการ” เสริมกำลังขจัดความยากจนให้แข็งแกร่ง
ด้านเหมา ฟาง ผู้อำนวยการศูนย์บริการเทศกิจ อำเภอปกครองตนเองชนเผ่ามู่เหล่าโหลวเฉิง เข้าประจำการที่หมู่บ้านโย่วต้ง ตำบลตงเหมิน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าหน่วยรบ” เธอระบุว่า “ข้าราชการศูนย์บริการเทศกิจหลายคนลงพื้นที่หมู่บ้านยากจนทำการรบ ถือเป็นการเสริมกำลังข้าราชการให้เข้มแข็ง ทำงานได้ละเอียด และได้ผลกว่าเดิม” คนเขาเหล่านี้เข้าประจำยังไซต์โครงการช่วยหลือผู้ยากจนทุกวัน ส่วนทางหมู่บ้านก็ได้จัดประชุมประสานงานสัปดาห์ละครั้ง โดยผู้นำทางการอำเภอเป็นประธานการประชุม ร่วมหารือปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และกำหนดผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน รวมถึงกำหนดแผนการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเร่งด่วนแบบนับถอยหลัง
สำหรับเมืองเหอฉือ มีอำเภอตูอัน ต้าฮั่ว และโหลวเฉิง รวม 3 แห่ง ที่ยังไม่พ้นจากความยากจน ส่วนหมู่บ้านยากจนที่มีอัตราการเกิดความยากจนสูงกว่า 10% มีจำนวน 37 หมู่บ้าน การบัญชาการด้วยการแขวนป้าย (การเข้าตรวจสอบ) จะมุ่งกำกับดูแลให้โครงการช่วยเหลือผู้ยากจนดำเนินไปอย่างถึงที่สุด ตรงตามที่ต้องการ นับตั้งแต่เรื่องการศึกษาภาคบังคับ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน ความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย ไปจนถึงความปลอดภัยของน้ำดื่ม โดยมุ่งดำเนินการให้ถึงเส้นชัยในช่วงโค้งสุดท้าย
ทางการกว่างซีตั้งสำนักงานบัญชาการด้วยการแขวนป้าย (สำนักงานตรวจสอบ) หาทางจัดการอย่างสุดความสามารถเพื่อให้พ้นจากความยากจน โดยรวบรวมผลงานความคืบหน้าเป็นประจำทุกเดือน จัดทำบัญชีเรื่องราวต่าง ๆ และนำไปแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับ สั่งให้ปรับปรุงอย่างถึงที่สุดจึงจะลบชื่อออกได้ เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ดังกล่าวระบุว่า หน่วยงานต่าง ๆ ได้มุ่งแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ที่จำเป็นมากที่สุด จัดสรรงบประมาณ โครงการ นโยบาย เพื่อสนับสนุน “การสู้รบ” ในแนวหน้าอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อประกันให้กว่างซีบรรลุเป้าหมายหลุดพ้นจากความยากจนตามเวลาที่กำหนด
TIM/LING/LU