บทวิเคราะห์ : ใครเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในภูมิภาค

2020-09-24 10:10:16 | CRI
Share with:

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางไช่ อิงเหวิน ผู้นำทางการไต้หวัน กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ช่วงที่ผ่านมา จีนแผ่นดินใหญ่ได้ทำการซ้อมรบต่อเนื่องกันหลายครั้งในบริเวณใกล้ช่องแคบไต้หวัน การกระทำเช่นนี้เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในภูมิภาค

สื่อหลายสำนักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออกมาแสดงความเห็นต่อคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวของนางไช่ อิงเหวินว่า หลังเธอเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำทางการไต้หวัน ทางการไต้หวันก็ไม่ยอมรับ “ความเห็นพ้องต้องกัน ค.ศ. 1992” มิหนำซ้ำยังสมคบคิดกับนักการเมืองสหรัฐฯ บางคนที่มีเจตนาร้ายทำลายกระบวนการรวมจีนเข้าเป็นเอกภาพอย่างสันติจนทำให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน จากเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่า ทางการไต้หวันและนักการเมืองสหรัฐฯ บางคนที่มีเจตนาร้ายต่างหากที่เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพในภูมิภาค

ไต้หวันเป็นดินแดนของจีนตั้งแต่โบราณกาล เมื่อสงครามโลกครั้งที่  2 สิ้นสุดลง ประชาคมโลกยอมรับและยืนยันว่า ไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีน เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มิอาจแบ่งแยกได้ของจีน

วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 สาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น  รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมายแต่เพียงหนึ่งเดียวของจีน แทนที่ “รัฐบาลสาธารณรัฐจีน” ที่นำโดยพรรคก๊กมินตั๋ง

วันที่ 7 ธันวาคาม ค.ศ. 1949 เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ของ  “รัฐบาลสาธารณรัฐจีน” ที่นำโดยพรรคก๊กมินตั๋ง หนีออกจากเมืองเฉิงตู  ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ไปยังเกาะไต้หวัน วันที่ 10 ธันวาคมปีเดียวกัน นายเจียง ไคเช็ก พร้อมด้วย นายเจียง จิงกว๋อ บุตรชาย โดยสารเครื่องบินจากเมืองเฉิงตูไปยังไต้หวัน

วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 สงครามเกาหลีปะทุขึ้น กองทัพสหรัฐฯ เข้าไปยังเกาหลี กองเรือรบที่ 7 ของสหรัฐฯ เริ่มประจำการที่ช่องแคบไต้หวัน เพื่อยับยั้งไม่ให้จีนทำการปลดแอกไต้หวัน ทำให้รัฐบาลและประชาชนจีนรู้สึกโกรธแค้นยิ่ง

วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1979 จีน-สหรัฐฯ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ระบุว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองจุดยืนของจีน คือ มีจีนประเทศเดียว ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน  รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่มีความสัมพันธ์ทางการในรูปแบบใดกับไต้หวัน”

ต่อมาปี 1992 สมาคมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันของฝ่ายจีนแผ่นดินใหญ่และกองทุนแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันของฝ่ายไต้หวันได้รับมอบหมายให้ปรึกษาหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และบรรลุ  “ความเห็นพ้องต้องกัน ค.ศ. 1992” ซึ่งมีใจความสำคัญ คือ สองฝั่งช่องแคบไต้หวันล้วนยึดหลักการจีนเดียว

อย่างไรก็ตาม หลังพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเข้ามาบริหารไต้หวัน ทางการไต้หวันไม่ยอมรับ “ความเห็นพ้องต้องกัน ค.ศ.1992”  และทำการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนอย่างอุกอาจ เพื่อให้ไต้หวันเป็นเอกราช อีกทั้งยังสมคบคิดกับฝ่ายสหรัฐฯ ทำลายผลประโยชน์ร่วมกันของพี่น้องร่วมชาติสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน พร้อมกันนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้  สหรัฐฯ ยังดื้อรั้นส่ง นายอเล็กซ์ ซาร์ รมว.สาธารณสุขและงานบริการสาธารณะ และนายคีธ แครช ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ  เดินทางเยือนไต้หวัน การกระทำเช่นนี้ละเมิดหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง พร้อมทั้งทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ตลอดจนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคช่องแคบไต้หวัน

วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา กองทัพปลดแอกประชาชนจีนทำการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงบริเวณใกล้ช่องแคบไต้หวัน ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการที่ถูกต้องและจำเป็นในการปกป้องอธิปไตยรวมถึงบูรณภาพเหนือดินแดนภายใต้สถานการณ์ช่องแคบไต้หวันในขณะนี้

สรุปได้ว่า ไต้หวันเป็นดินแดนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ของจีน จีนไม่เคยยอมรับสิ่งที่เรียกว่า “เส้นกลางแบ่งช่องแคบไต้หวัน” จีนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน ไม่ว่าการเคลื่อนไหวใดที่สร้างความเสียหายแก่ประโยชน์หลักที่สำคัญที่สุดของจีน หรือ การแทรกแซงกิจการภายในของจีน ล้วนจะถูกจีนตอบโต้อย่างมีพลัง ไม่ว่าอิทธิพลใดก็ตามล้วนไม่สามารถขัดขวางความเป็นเอกภาพของจีน เพราะนี่เป็นกระแสเชิงประวัติศาสตร์ จีนเตือนทางการไต้หวันและนักการเมืองบางคนของสหรัฐฯ อย่าทำลายสันติภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

(tim/cai)

 

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

蔡建新