ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 46,000 คนทุกวัน คิดเป็น 12% เมื่อเทียบกับสองสัปดาห์ก่อน ทำเนียบขาวและเพนตากอนกลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดที่รุนแรง แสดงให้เห็นว่านโยบายป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์เผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมว่า วิกฤตโควิด-19 เป็นการทดสอบความสามารถของผู้นำ ในครั้งนี้ถือว่าสหรัฐฯ สอบไม่ผ่าน นักการเมืองทำให้วิกฤตกลายเป็นวิกฤตหนัก ในวันเดียวกันดร.ริค ไบรท์ อดีตผู้อำนวยการองค์การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความใน “เดอะ วอชิงตัน โพสต์” วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้โควิด-19 กลายเป็นเรื่องการเมือง ทำให้ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิต
การมุ่งหาผลประโยชน์ทางการเมืองคือความจริง แต่ไม่มีการใช้วิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริงเข้ามาแก้ปัญหาโควิด-19 มีเพียงคำโกหกและข้อมูลเท็จ ซึ่งเป็นสาเหุตให้มีผู้เสียชีวิต 210,000 ราย และผู้ป่วยกว่า 7,600,000 คน นักการเมืองสหรัฐฯ พยายามปิดบังความจริงของโควิด-19 และประชาสัมพันธ์ข้อมูลเท็จ ไม่รับผิดชอบและใส่ร้ายองค์การอนามัยโลกและจีน ตลอดจนประเทศพันธมิตร
สำหรับประชาชนชาวอเมริกันแล้วจุดต่ำสุดที่แท้จริงยังมาไม่ถึง นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคทางเดินหายใจของสหรัฐ เตือนว่าถ้าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวยังป้องกันโรคระบาดได้ไม่ดี อาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 400,000 คน ดร. ริค ไบรท์ ก็เตือนเช่นกันว่า สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ฤดูหนาวที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุคปัจจุบัน
Bo/Chu/Zi