บทวิเคราะห์ : เมืองเซินเจิ้นส่งสัญญาณสำคัญอะไรต่อทั่วโลก

2020-10-13 19:53:27 | CMG
Share with:

บทวิเคราะห์: เมืองเซินเจิ้นส่งสัญญาณสำคัญอะไรต่อทั่วโลก_fororder_深圳图片

เมืองเซินเจิ้น ทางภาคใต้ของจีนมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการปฏิบัติตามนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ข่าวเกี่ยวกับเมืองเซินเจิ้นดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย

วันที่ 11 ตุลาคม รัฐบาลจีนประกาศแผนดำเนินโครงการปฏิรูปสร้างเขตสาธิตนำร่องที่มีเอกลักษณ์พิเศษของสังคมนิยมจีน ระหว่างปี 2020 - 2025 โดยให้เซินเจิ้นมีอิสระมากขึ้นในการปฏิรูปประเด็นและขั้นตอนสำคัญ สนับสนุนเซินเจิ้นส่งเสริมการปฏิรูปบนพื้นฐานที่มีระดับจุดเริ่มต้นและเป้าหมายที่สูงขึ้น นำร่องปรับปรุงระบบด้านต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตั้งระบบการพัฒนาที่มีคุณภาพ  ส่งเสริมระบบกำกับดูแลและความสามารถในการกำกับดูแลให้ทันสมัย เร่งรัดสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ที่มีการปฏิรูปอย่างรอบด้านและลึกซึ้งยิ่งขึ้น รวมถึงขยายการเปิดประเทศให้กว้างขึ้น วันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เช้าวันที่ 14 ตุลาคม นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะเข้าร่วมการประชุมเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น และกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญ

นักวิเคราะห์มองว่า เมืองเซินเจิ้นมีภารกิจสำคัญครั้งใหม่ในวาระครบรอบ  40 ปี แห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศ พร้อมกับการถ่ายทอดข้อความสำคัญของจีนที่จะยืนหยัดปฏิรูปและเปิดกว้างต่อไป

นับตั้งแต่นายสี จิ้นผิง เป็นผู้นำสูงสุดของจีน เขาเคยเยือนเมืองเซินเจิ้น 2 ครั้ง ทุกครั้งเขาได้ถ่ายทอดให้โลกเห็นถึงการยืนหยัดของจีนในการปฏิรูปและเปิดประเทศ ในจำนวนนี้ นายสี จิ้นผิง เดินทางไปเมืองเซินเจิ้นในวาระครบรอบ 40 ปี แห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน พร้อมกับกล่าวด้วยความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการปฏิรูปและเปิดประเทศว่า “หลังการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติจีน ครั้งที่ 18 จุดหมายแรกของการลงพื้นที่ของเขา คือ เมืองเซินเจิ้น ในวาระครบรอบ 40 ปี แห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศ เขามาเยือนเมืองเซินเจิ้นก็เพื่อให้ทั่วโลกรู้ว่า จีนจะไม่หยุดปฏิรูปและเปิดประเทศ จีนย่อมจะมีสิ่งมหัศจรรย์ใหม่อันยิ่งใหญ่ที่ทำให้โลกประหลาดใจอย่างแน่นอน”

ส่วนในปีนี้ นายสี จิ้นผิงเดินทางเยือนเซินเจิ้นอีกครั้ง ซึ่งตรงกับวันครบรอบ  40 ปี แห่งการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษ ลัทธิฝ่ายเดียวและลัทธิกีดกันการค้ากำลังฟื้นตัวขึ้น โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจกำลังเผชิญความท้าทาย ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิค-19 ทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอยลงอย่างรุนแรง การพัฒนาของจีนอยู่ในสภาวะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสลับซับซ้อน เมื่อยืนอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ การปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนจะเดินไปในทิศทางใด จึงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ย้ำหลายครั้งว่า ต้องผลักดันรูปแบบการพัฒนาใหม่ที่ถือการหมุนเวียนภายในประเทศเป็นหลัก พร้อมกับส่งเสริมการหมุนเวียนคู่ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้โลกเห็นว่า จีนไม่เพียงแต่ไม่แยกตัวออกจากโลก หากยังจะส่งเสริมโลกาภิวัตน์อย่างต่อเนื่อง  ตลอดจนประสานการพัฒนาและความมั่นคงของการเปิดประเทศในระดับที่สูงขึ้นด้วย

ทั้งนี้ เชื่อกันว่า ภายใต้การนำอันแข็งแกร่งของนายสี จิ้นผิง เมืองเซินเจิ้นย่อมจะส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งในการขยายการปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างลึกซึ้งแก่โลกอีกครั้ง

Tim/kt/lyj

  • เสียงข่าวประจำวัน (26-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (26-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (26-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (25-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (25-11-2567)

陆永江