ติงเจินคือใคร? ติงเจินก็เหมือนคนทั่วไปที่เข้าตาแมวมอง หรือส่งเพื่อนไปแคสติ้งแต่ผู้กำกับกลับเลือกเขาแทน ติงเจินออกไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสองห่อในวันธรรมดาๆ ขากลับก็ยังสงสัยว่าจะกินอะไรดี ในขณะนั้นช่างภาพอยากจะไปถ่ายภาพน้องชายของติงเจิน แต่ว่าหาไม่เจอ ก็เลยถ่ายภาพติงเจินโดยบังเอิญ ซึ่งเขาอยู่ในชุดชนเผ่าทิเบต ดวงตาของเขาบริสุทธิ์และสดใส เขาเดินไปหากล้องตามสไตล์แต่เป็นธรรมชาติ รอยยิ้มไร้เดียงสาของเขาถูกบันทึกเอาไว้ วิดีโอที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ไปในวันที่ 11 พฤศจิกายน มียอดกดไลค์เกือบ 3 ล้านครั้ง ปฏิกิริยาของชาวเน็ตก็ "สั่นสะเทือน" โลกอินเตอร์เน็ต เขาถูกเรียกว่า "หนุ่มดอยแสนหวาน Sweet Wild Boy" โดยบรรยายว่าเขา "อยู่ร่วมกันอย่างดิบและไร้เดียงสา"
ชาวเน็ตจีนอธิบายถึง "เขา" ว่า เป็นหนุ่มที่ดูอ่อนหวานและแฝงด้วยความดิบ ซึ่งแว๊บแรกความเขาจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหมาป่า แต่เมื่อเขายิ้ม คุณจะคิดว่าหมาป่านี้สายหวาน ทำไมตาของเขาใสขนาดนี้ และทำไมหนุ่มทิเบตคนนี้จึงไม่ใช่แฟนของฉัน
ต่อมาติงเจินเปิดบัญชีโซเชียลและแนะนำม้าคู่ใจของเขาชื่อ "ไข่มุก" และก็มีคนกดไลค์มากกว่า 2 ล้านครั้ง ต่อมาวิดีโอความยาวไม่ถึง 10 วินาทีของติงเจินที่ขี่ม้าและหวดแส้ควบไปบนทุ่งหญ้า และยิ้มอวดฟันขาวใต้ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างไร้เดียงสา โดนใจชาวเน็ตจำนวนมาก ซึ่งจำนวนการดูวิดีโอเกิน 12 ล้านครั้ง หลังจากติงเจินมีชื่อเสียง ชาวเน็ตบางคนเริ่มกังวลว่าเขาจะกลายเป็นคนดังทางอินเทอร์เน็ตที่ "มาเร็วไปเร็ว" หรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามคำถามนี้ติงเจิน บอกว่าเรื่องที่เขาอยากจะเป็นที่สุดคือ "เจ้าชายแห่งการแข่งม้า" อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากจะให้ติงเจินถูกโฆษณาและถูกรบกวนเชิงพาณิชย์ ดูเหมือนว่าเป็นความเห็นพ้องต้องกันของทุกคน
ต่อมา ติงเจินไม่ได้เข้าสู่กิจกรรมบันเทิง แต่กลายเป็นพนักงานของรัฐวิสาหกิจในบ้านเกิดของเขา ซึ่งบริษัทการลงทุนวัฒนธรรมการท่องเที่ยวและกีฬา ของอำเภอหลี่ถังของจังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าทิเบตมณฑลเสฉวน ได้ลงนามในสัญญากับติงเจิน โดยเชิญเขาเป็นทูตภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของอำเภอหลี่ถัง และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมในท้องถิ่น จากวิดีโอสั้น ๆ ที่กลายเป็นที่นิยมในชั่วข้ามคืน ติงเจินกล่าวว่าเขาไม่รู้ว่าเขากลายเป็นที่นิยมได้อย่างไร แต่เขามีความสุขมากที่มีชื่อเสียงและสามารถทำงานประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบ้านเกิดของเขา มีผู้คนจำนวนมากติดตามติงเจิน ได้ชมท้องฟ้าสีคราม ทุ่งหญ้า ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ และทะเลสาบที่สวยงามของอำเภอหลี่ถัง ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากอยากจะเดินทางไปเที่ยวอำเภอหลี่ถัง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในท้องถิ่น ที่เหมาะกับความปรารถนาของติงเจิน ที่จะ "ทำงานเพื่อบ้านเกิดของเขา" หลังจากติงเจินกลายเป็นเน็ตไอดอล อำเภอหลี่ถัง จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าทิเบตมณฑลเสฉวนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าความนิยมของอำเภอหลี่ถังเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน การค้นหาอำเภอหลี่ถังเพิ่มสูงขึ้นถึง 620% เป็นสี่เท่าของช่วงวันหยุดวันชาติ
วางแผนอนาคตอย่างไร? ติงเจินบอกว่า เขาต้องเรียนรู้ก่อน ติงเจินซึ่งไม่เคยไปโรงเรียนก็มีโอกาสได้เรียนรู้และเริ่มเรียนรู้ตัวอักษรภาษาจีนกลาง เขาหวังว่าจะทำงานที่บริษัทจัดเตรียมไว้ทุกอย่างให้ดี และยังคงต้องการคว้าแชมป์บนหลังม้า"
หลังติงเจินมีชื่อเสียง หน่วยงานด้านสื่อและวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของหลายเมืองและมณฑลต่างๆ ทั่วประเทศได้พากันเชิญชวนติงเจินมาเที่ยวบ้านเกิดของตัวเอง ติงเจินตอบว่า เนื่องจากเวลาและสภาพอากาศเขาไม่สามารถไปได้ทั้งหมดในคราวเดียว ถ้าผู้คนมีเวลาก็เชิญมาหาเขาที่บ้านเกิดของเขาที่อำเภอหลี่ถัง
ปัจจุบัน ติงเจินได้เข้าเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการของบริษัทการลงทุนวัฒนธรรมการท่องเที่ยวและกีฬาอำเภอหลี่ถังของจังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าทิเบตมณฑลเสฉวน และได้เป็นทูตการท่องเที่ยวท้องถิ่นที่มีเงินเดือน 3,500หยวนต่อเดือน
ตู้ ตงตง ผู้จัดการบริษัทของติงเจินกล่าวว่า ติงเจินเป็นพนักงานที่ซื่อสัตย์และทำงานอย่างจริงจัง เขาเป็นโฆษกของอำเภอหลี่ถัง และจะเป็นผู้บรรยายในพิพิธภัณฑ์ทะไลลามะชางยังเจียชั่วในวันธรรมดา
การเซ็นสัญญาให้ติงเจินเป็นพนักงานของบริษัทฯ ก็เพื่อคุ้มครองติงเจิน และหวังว่าติงเจินจะเติบโตมาพร้อมกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น การเชิญติงเจินจากท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการยอมรับความนิยมของติงเจิน หวังว่าติงเจินจะถือโอกาสนี้สามารถเข้าร่วมกับสังคมและรักษาความเป็นเขาแบบดั้งเดิมได้ และหวังว่าสื่อจะไม่ไปรบกวนเขาจนเกินไป