เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนระบุในการประชุมคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ว่าหลังใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ปี จีนได้บรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนตามกำหนดเวลา ภายใต้มาตรฐานปัจจุบัน คนจนในชนบทได้หลุดพ้นจากความยากจนได้สำเร็จ ขณะที่อำเภอยากจนต่าง ๆ ได้ออกจากบัญชีพื้นที่อยากจน แสดงให้เห็นว่าจีนได้ขจัดความยากจนในพื้นที่โดยรวม และมีประชาชนเกือบ 100 ล้านคน หลุดพ้นจากความยากจนเป็นผลสำเร็จ、
งานบรรเทาความยากจนเป็นงานสำคัญอย่างหนึ่งของการบริหารจัดการประเทศทั้งภายในและภายนอกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลจีนได้ดำเนินการขจัดความยากจนที่ “มากที่สุดและทุ่มเทกำลังที่สุดของโลก” สะท้อนให้เห็นถึงความได้เปรียบทางระบบการเมืองของจีน ทั้งนี้ ประเทศจีนได้ดำเนินมาตรการสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นรูปแบบของจีนเองมากมาย เช่นรูปแบบการขจัดความยากจนอย่างเจาะจงตามสภาพที่เป็นจริงของแต่ละพื้นที่ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมช่วยเหลือความยากจน การประยุกต์ใช้ทรัพยากรระบบนิเวศช่วยขจัดความยากจน การโยกย้ายและสร้างชุมชนใหม่เพื่อช่วยขจัดความยากจน เป็นต้น ได้เปลี่ยนอนาคตของครอบครัวที่ยากจนจำนวนมาก
การขจัดความยากจนของจีนไม่เพียงแต่ช่วยเหลือครอบครัวยากจนภายในประเทศแต่ยังมีบทบาทลึกซึ้งต่อทั่วโลก ระยะเวลากว่า 40 ปีที่จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ ประชาชนกว่า 700 ล้านคนได้หลุดพ้นออกจากความยากจน อัตราการสร้างคุณประโยชน์ต่อการขจัดความยากจนทั่วโลกมีกว่า 70% ดัง “รายงานการพัฒนามนุษย์” (HDI)ประจำปี 2019 ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติระบุว่า ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของจีน จาก 0.501 ในปี 1990 ขึ้นเป็น 0.758 ในปี 2018 เพิ่มขึ้นเกือบ 51.1% และจีนเป็นประเทศเดียวในโลกที่ก้าวจาก “การพัฒนามนุษย์ในระดับต่ำ” ขึ้นเป็น “การพัฒนามนุษย์ในระดับสูง” นับตั้งแต่การกำหนดดัชนีการพัฒนามนุษย์ในปี 1990 ที่ผ่านมา
นายจิม ยอง คิม อดีตประธานธนาคารโลกกล่าวชื่นชมว่างานขจัดความยากจนของจีนเป็น “อีกหนึ่งภารกิจอันยิ่งใหญ่ท่ามกลางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ” ด้านนายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเคยกล่าวว่า การขจัดความยากจนอย่างเจาะจง เป็นหนทางทางเดียวที่บรรลุเป้าหมายแห่งการช่วยเหลือผู้คนที่ยากจน และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2030 พร้อมกล่าวว่า “ประสบการณ์ของจีนสามารถเป็นข้อแนะนำที่ดีต่อบรรดาประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ของโลก”
(Bo/Zi)