วันที่ 18 ธันวาคม สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนร่วมกับสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีนได้จัดสัมมนาหัวข้อ “ถอดรหัสความสำเร็จการแก้ปัญหาความยากจนของจีน” ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ
ดร.สรรเสริญ สมะลาภา กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมเป็นประธานในพิธี และได้กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ความจำเป็นในการแก้ปัญหาความยากจนของไทย”
ขณะกล่าวปาฐกถา ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ได้แสดงความชื่นชมจีนที่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนภายในประเทศได้อย่างยอดเยี่ยม โดยระบุว่า เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศจีนสามารถประกาศชัยชนะต่อความยากจนได้สำเร็จ ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การสหประชาชาติ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในการแก้ปัญหาความยากจน ความสำแร็วนี้ ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูชาติ แต่ยังถือเป็นการขจัดความยากจนครั้งใหญ่และครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย
ดร.สรรเสริญ สมะลาภา กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เห็นว่า การที่จีนสามารถขจัดความยากจนได้ดีนั้น เหตุผลสำคัญประการหนึ่งเกิดจากการใช้นโยบายที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งได้แก่ มาตรการบรรเทาปัญหาความยากจนแบบตรงจุด ถูกต้อง แม่นยำ ทันต่อสถานการณ์ เหมาะสมและแตกต่างตามลักษณะและความต้องการของคนจนแต่ละกลุ่มและภูมิภาค และยังมีการตรวจสอบจากหน่วยงานบุคคลที่ 3 อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังออกมาตรการที่ใช้ประโยชน์จากการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการเติบโตของการบริโภคของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการใช้มาตรการล็อคดาวน์ ทำให้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น จึงมีการใช้การทำโฆษณาด้วยวิธี live streaming เพื่อขายสินค้าเกษตรจากพื้นที่ยากจน และภาครัฐได้ให้แรงจูงใจแก่ผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ ในการซื้อสินค้าและบริการจากพื้นที่ยากจน และยังมีการสร้างกลไกในการรองรับสินค้าที่มาจากครัวเรือนที่ยากจน เพื่อจำหน่ายในร้านหรือผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก
ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ยังระบุด้วยว่า ไทยกับจีนสามารถร่วมมือเพื่อสานต่อนโยบายในการลดความยากจน และพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศได้ ทั้งการสร้างความร่วมมือผ่านการทำความตกลงทางการค้า ซึ่งมีตัวอย่างแล้วคือ การทำ Mini FTA กับมณฑลไหหลำ รวมทั้งความร่วมมือในการเปิดด่านการค้าชายแดนของจีน อาทิ ด่านรถไฟผิงเสียง ด่านโหยวอี้กวน และด่านตงซิง ที่ช่วยทำให้ผู้ส่งออกของทั้งสองประเทศสามารถทำการค้าได้อย่างสะดวกขึ้น และความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซและการทำการตลาดในรูปแบบออนไลน์ ที่สามารถเห็นผลได้อย่างเป็นรูปธรรม หวังว่า ความร่วมมือเหล่านี้จะขยายเพิ่มมากขึ้น เพื่อผลประโยชน์อย่างยั่งยืนของประชาชนของทั้งสองประเทศ
ก่อนหน้านี้ นายภูวนารถ ณ สงขลา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า ในโอกาสที่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้กำหนดเป้าหมายให้ ปี 2020 เป็นปีที่จีนจะแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศให้หมดสิ้น และก้าวสู่สังคมพอกินพอใช้ ซึ่งล่าสุดจีนได้ยืนยันถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาความยากจนได้ภายในปีนี้แล้ว ทางสมาคมฯจึงเห็นว่า เป็นประเด็นสำคัญในการที่ประเทศไทยควรที่จะต้องเรียนรู้จากความสำเร็จดังกล่าว
YIM/LU