ปี 2020 ใกล้สิ้นสุดลง การแพร่ระบาดยังคงดำเนินอยู่ทั่วโลก เมื่อมองย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา แม้ชาวจีนต้องเผชิญกับความกลัว ความกังวล และความเจ็บปวด แต่ในใจก็เปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณและความรู้สึกลึกซึ้งที่สุดเกี่ยวกับความช่วยเหลือและความร่วมมือซึ่งกันและกัน "เคียงข้างกัน" คำนี้เป็นคำธรรมดาแต่แปลความหมายได้หลายอย่าง

มองเห็นความจริงในความทุกข์ยาก ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดและชาวจีนอยู่ในช่วงลำบากที่สุด ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านส่งความช่วยเหลือจำนวนมากและเขียนข้อความอันอบอุ่นว่า "ภูเขาและแม่น้ำต่างกัน แต่สายลมและดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าเดียวกัน" สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเป็นพิเศษเพื่อสนับสนุนชาวจีน นับเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เดินทางเยือนจีนในปีนี้ รัฐสภาปากีสถานมีมติเป็นเอกฉันท์ให้สนับสนุนจีนต่อสู้โรคระบาด นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถาน กล่าวว่า ยินดีระดมเวชภัณฑ์ทั้งหมดในประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่จีน "เตหะรานไทม์" ของอิหร่านตีพิมพ์บทความ ระบุว่า "ในการเผชิญโรคระบาด เราต่างก็เป็นคนจีน"

สิ่งของช่วยเหลือที่ญี่ปุ่นมอบให้จีนเขียนว่า "ภูเขาและแม่น้ำต่างกัน แต่สายลมและดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าเดียวกัน"

การกระทำอันอบอุ่นใจเหล่านี้ทำให้ชาวจีนมีความมั่นใจและกล้าหาญที่จะเอาชนะไวรัส ในเดือนสุดท้ายของปี 2020 ฉากแห่งความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันยังคงดำเนินต่อไปทั่วโลกที่เราอาศัยอยู่ด้วยกัน

คืนวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา วัคซีนโควิด-19 ของจีนเดินทางถึงสนามบินนานาชาติไคโรในของอียิปต์ ทำให้อียิปต์กลายเป็นประเทศแรกในทวีปแอฟริกาที่ได้รับวัคซีน ด้านนอกสวนสาธารณะในนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประชาชนท้องถิ่นต่างรอรับวัคซีนโควิด-19 จากจีนตั้งแต่เวลา 07.00 น. วิศวกรชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในดูไบ กล่าวว่า วัคซีนจีนเป็น "แสงสว่างแห่งความหวังในเมฆมืด"

วัคซีนโควิด-19 ของจีนส่งมายังกรุงไคโร

วัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพถือเป็น "อาวุธขั้นสูงสุด" ในการชนะโรคระบาด เพื่อเอาชนะความยากลำบากในการวิจัยและผลิตวัคซีน จีนจึงกำหนด 5 แนวทางเทคนิค เท่าที่ทราบโรงงานสองแห่งของวิสาหกิจผลิตวัคซีนแห่งหนึ่งลงทุน 2 พันล้านหยวน มูลค่าการลงทุนวิจัยและผลิตวัคซีนสามารถประเมินค่าได้แต่จีนไม่ได้ต้องการทำกำไรทางการค้ามหาศาล ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก ครั้งที่ 73 ว่า หลังการวิจัยผลิตวัคซีนของจีนประสบความสำเร็จจะให้มีการกระจายแก่ทั่วโลกเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะ เดือนตุลาคมที่ผ่านมา จีนได้เข้าร่วม "แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19" อย่างเป็นทางการ โดยมีการดำเนินงานในทางปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรมและรองรับการจัดหาวัคซีนแก่ประเทศกำลังพัฒนา วัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศจีนมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ราคาไม่แพง รวมถึงมีการจัดเก็บและขนส่งที่ค่อนข้างสะดวก ขณะเดียวกันยังมีคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์สาธารณะระดับโลก ตรงตามความต้องการของประเทศกำลังพัฒนา และได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน ตุรกี อินโดนีเซีย บราซิล และประเทศอื่น ๆ  ได้ตัดสินใจใช้วัคซีนจีน ตามรายงานของสื่อมวลชน ผู้ว่าการรัฐเซาเปาโลของบราซิล เปิดเผยว่า ราคาวัคซีนที่จีนขายให้บราซิล คือ 10.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวครึ่งหนึ่งของราคาวัคซีนสหรัฐฯ

เมื่อมองไปที่โลกแล้ว ประเทศร่ำรวยต่างสะสมวัคซีน ขณะที่ประเทศยากจนอยากมีแต่ก็มีไม่ได้ ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นสิ่งที่เรียกว่า "ชีวิต" ของผู้นำประเทศหรือไม่ เราก็ไม่อาจสรุปได้ แต่การถือกฎแห่งป่า (Law of the Jungle) อย่างเปลือยเปล่าไม่เหมาะกับค่านิยมของประชาชาติจีนที่สืบทอดกันมานานนับพันปี ดังนั้น เมื่ออู่ฮั่นปิดเมืองผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกและทั่วประเทศจีนจึงรีบเข้ามาช่วยเหลือ และเมื่อจีนค่อย ๆ พ้นจากการแพร่ระบาด ขณะที่เพื่อนบ้านและเพื่อนมนุษย์บนโลกใบเดียวกันยังคงต้องทนทุกข์ทรมาน ชาวจีนก็ยินดียื่นมือให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่สุดความสามารถ

จีนซึ่งกำลังค่อย ๆ หลุดพ้นจากโรคระบาดได้ให้ความช่วยเหลือไปยังกว่า 150 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 9 แห่งในปีนี้ รวมถึงยังได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ 36 ทีมไปยัง 34 ประเทศที่ต้องการ นอกจากนี้ จีนยังใช้ความได้เปรียบด้านอุปกรณ์การแพทย์ทำให้จนถึงขณะนี้จีนจัดหาหน้ากากไปแล้วกว่า 2 แสนล้านชิ้น ชุดป้องกันทางการแพทย์ 2 พันล้านชุด และชุดทดสอบ 800 ล้านชุดแก่ประเทศต่าง ๆ

วันที่ 22 มีนาคม 2020 สิ่งของช่วยเหลือจากจีนเดินทางถึงเอธิโอเปีย

ในปีที่ผ่านมา เส้นทางพัฒนาการป้องกันและควบคุมโรคระบาดทั่วโลกบอกเราว่า ประเทศที่เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่องทำให้การแพร่ระบาดได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่บางประเทศที่ต้องการ "ยกเว้นตัวเอง" อยู่เสมอกลับยังคงจมอยู่กับการแพร่ระบาด

นายอาริฟ อัลวี ประธานาธิบดีปากีสถาน กล่าวว่า เนื่องจากเราเรียนรู้ประสบการณ์จากจีนในการต่อสู้กับโรคระบาดจึงทำให้ปากีสถานประสบความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19 ให้อยู่ในระดับต่ำ

ปี 2020 โควิด-19 ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของความสามัคคีและความร่วมมือ ชะตากรรมของผู้อยู่อาศัยทั่วโลกนั้นแยกออกจากกันไม่ได้ พหุภาคีและโลกาภิวัตน์ไม่สามารถย้อนกลับได้ จากความเข้าใจนี้อาเซียนจึงลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) กับประเทศพันธมิตร 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและปรับปรุงชีวิตประชาชน จีนเป็นประเทศเดียวที่มีการเติบโตของ GDP ภายใต้การแพร่ระบาด จีนเปิดประเทศและจัดงานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง เช่น งานแสดงสินค้าภาคบริการระหว่างประเทศ งานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติ และงานมหกรรมจีน-อาเซียน เป็นต้น ซึ่งสร้างโอกาสแก่การรับมือการแพร่ระบาดและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ

วันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการลงนาม "ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระดับภูมิภาค" อย่างเป็นทางการภายใต้การจัดการของเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศประธานอาเซียนในปี 2020

การเผชิญหน้าวิกฤต การทำงานร่วมกัน และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ควรเป็นทางเลือกของชาวโลกทั้งหมด เพราะนี่คือกำลังและอนาคตของมนุษยชาติ