ปธน.จีนกล่าวสุนทรพจน์ดาวอสครบ 4 ปี ชี้แนวทางเศรษฐกิจโลกยุคหลังโรคระบาด

2021-01-16 20:43:50 | CMG
Share with:

ค.ศ. 2020 เป็นปีที่พิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษ หนึ่งในนั้นคือโรคระบาดแห่งศตวรรษ ทำให้อนาคตของโลกเกิดความสับสนมากขึ้น กระแสลัทธิกีดกันและลัทธิฝ่ายเดียวทำให้โลกตกอยู่ในภาวะแตกแยก เกิดอะไรขึ้นกับโลกเรา? เราจะทำอย่างไรดี? ความสับสนดังกล่าวนี้ในความเป็นจริงเมื่อสี่ปีก่อนในเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อดาวอส บนเทือกเขาแอลป์ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีนได้ให้คำตอบด้วยตัวเองแล้ว

วันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2017 ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายสี จิ้นผิง เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมฟอรัมเศรษฐกิจโลก ประจำปี 2017 พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "ร่วมกัน แบกรับความรับผิดชอบแห่งยุคสมัยและส่งเสริมการพัฒนาโลก"

นับเป็นครั้งแรกที่ประมุขแห่งรัฐของจีนปรากฏตัวที่ฟอรั่มดังกล่าวซึ่งเป็นหางเสือชี้ทิศทางเศรษฐกิจโลก เมื่อเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของลัทธิอนุรักษ์นิยมและลัทธิโดดเดี่ยวบนโลก ทุกฝ่ายต่างมีความสับสนต่อทิศทางและอนาคตของโลกาภิวัตน์ ประชาคมโลกกำลังรอคอยที่จะเสริมสร้างความสามารถในการกำกับดูแลโลกและพ้นจากภาวะยากลำบากโดยเร็ว

นายสี จิ้นผิง ระบุในสุนทรพจน์โดยเริ่มจากประเด็นโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ พร้อมแบ่งปันความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า

“ในตอนนั้นจีนก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและมีความกังวลต่อการเข้าร่วมองค์การการค้าโลก อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า การรวมเข้าสู่เศรษฐกิจโลกเป็นทิศทางทางประวัติศาสตร์ หากเศรษฐกิจจีนจะพัฒนาก็ต้องกล้าที่จะเข้าสู่มหาสมุทรของตลาดโลก หากไม่กล้าออกทะเลเพื่อสัมผัสลมฝนและโลกอันกว้างใหญ่ก็คงจะมีสักวันที่จะจมน้ำในทะเล ดังนั้น จีนจึงเดินไปยังตลาดโลกอย่างกล้าหาญ ในกระบวนการนี้ จีนเคยสำลักน้ำและพบกับวังวน เผชิญลมและคลื่นน้ำ แต่เราก็ได้ฝึกเรียนว่ายน้ำ นี่คือทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง"

นายสี จิ้นผิง กล่าวเน้นย้ำว่า มนุษยชาติกลายเป็นชุมชนร่วมชะตาที่มีฉันในตัวคุณและคุณอยู่ในตัวฉัน ผลประโยชน์มีการผสมผสานและพึ่งพากันในระดับสูง "เราต้องพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้างอย่างไม่หยุดยั้ง แบ่งปันโอกาสและผลประโยชน์จากการเปิดกว้าง รวมทั้งบรรลุผลประโยชน์ร่วมกัน" นี่คือคำแนะนำของเขาสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่มีความซับซ้อน

"เราต้องพัฒนาการค้าและการลงทุนเสรีทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งเสริมการเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนในการเปิดกว้าง ทั้งยังต่อต้านการกีดกันทางการค้าอย่างชัดเจน การพัฒนาของจีนเป็นโอกาสสำหรับโลก จีนเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและเป็นผู้สร้างคุณูปการต่อโลก ประชาชนจีนต้อนรับผู้คนจากทั่วโลกให้เข้าร่วมการพัฒนาของจีน

ในสุนทรพจน์นั้น นายสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน สร้างสรรค์เขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก ผลักดันกระบวนการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและสร้างเครือข่ายการค้าเสรีที่มุ่งสู่ทั่วโลก

ยึดมั่นในลัทธิพหุภาคีและการค้าเสรี จีนจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างแน่วแน่ แม้เผชิญความท้าทายจากโรคระบาดที่รุนแรง แต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 มีการลงนาม "ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค" หลังเจรจามา 8 ปี อันถือเป็นเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดบนโลกที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ขณะที่ ปลายเดือนธันวาคม การเจรจาข้อตกลงการลงทุนจีน–สหภาพยุโรปก็เสร็จสิ้นตามกำหนด

ค.ศ. 2020 จีนเร่งเปิดสู่ภายนอกเร็วยิ่งขึ้น ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาสินค้าและยอดมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกภาคบริการของจีนเพิ่มขึ้นกว่าระดับเฉลี่ยทั่วโลก รายการข้อจำกัดและข้อห้ามสำหรับต่างชาติที่มาลงทุนในจีนลดลงจาก 40 รายการ เหลือ 33 รายการ เขตสาธิตการค้าเสรีจาก 18 แห่งเพิ่มขึ้นเป็น 21 แห่ง นอกจากนี้ จีนยังได้ประกาศและปฏิบัติตามแผนสร้างท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน แผนขยายการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกของเมืองเซินเจิ้น ทั้งยังร่วมมือกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” อย่างมีคุณภาพ จนมีผลคืบหน้ามากขึ้น

การแพร่ระบาดเป็นบททดสอบครั้งใหญ่สำหรับประเทศต่าง ๆ เช่นเดียวกับที่นายสี จิ้นผิง กล่าวในงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน ที่จัดขึ้นตามกำหนดไปเมื่อสิ้นปีที่แล้วว่า ไม่ว่าจะเผชิญกับความเสี่ยง ด้านภัยพิบัติและความยากลำบากเพียงไร สังคมมนุษย์ก็ย่อมต้องเดินไปข้างหน้าและจะก้าวต่อไปได้อย่างแน่นอน แนวโน้มที่ประเทศต่าง ๆ จะเปิดกว้างและร่วมมือกันนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง

“การแพร่ระบาดครั้งนี้เตือนเราว่า ประเทศต่าง ๆ เป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เมื่อเผชิญวิกฤตรุนแรงไม่มีใครจะได้ดีโดยลำพัง ความสามัคคีและความร่วมมือเป็นทางเลือกที่แน่นอนในการรับมือกับความท้าทาย เราต้องยึดมั่นในแนวคิดความร่วมมือเพื่อชัยชนะร่วมกัน เชื่อถือกันไม่ใช่สงสัยกัน ร่วมมือกันไม่ใช่ต่อสู้กัน และหารือกันไม่ใช่ใส่ร้ายกัน โดยถือผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศต่าง ๆ เป็นหลัก ผลักดันให้โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจพัฒนาไปในทิศทางที่เปิดกว้าง อำนวยผลประโยชน์ทั่วไป สมดุล และได้รับชัยชนะ”  

Tim/LR/Cui

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

刘榕