เมื่อเข้าสู่ปี 2021 สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดในขอบเขตทั่วโลกนานกว่าหนึ่งปีแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้มีกว่า 2,000,000 คน พร้อมกันนี้งานฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็กำลังดำเนินอยู่ในหลายประเทศและภูมิภาค ได้นำความหวังให้กับชาวโลก แต่ขณะเดียวกัน ทั่วโลกก็ต้องเผชิญปัญหาที่ตามมาเกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีนที่ไม่สมดุล
เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกจัดการประชุมทางไกลคณะกรรมการบริหารครั้งที่ 148 ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกแสดงความกังวลต่อความไม่สมดุลในการจัดสรรวัคซีนโควิด-19ทั่วโลก จนถึงบัดนี้ ทั่วโลกมีวัคซีนจำนวน 39,000,000 โดส ถูกส่งไปฉีดในประเทศที่มีรายได้สูงอย่างน้อย 49 ประเทศ แต่สำหรับประเทศที่มีรายได้ต่ำสุดในโลก กลับได้รับการฉีดวัคซีนเพียง 25 โดสเท่านั้น
บริษัท Airfinity ซึ่งเป็นบริษัทติดตามและวิเคราะห์การทดลองวัคซีนของประเทศอังกฤษประกาศข้อมูลว่า วัคซีนโควิด-19 จำนวน 85%ของบริษัทไฟเซอร์และจำนวนทั้งหมดของบริษัทโมเดอร์นาได้จัดเสนอให้กับบรรดาประเทศที่มีรายได้สูง ก่อนหน้านี้ นายเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ อดีตประธานาธิบดีประเทศไลบีเรียประกาศว่า เนื่องจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมีการกักตุนวัคซีน จึงทำให้ประเทศทวีปแอฟริกาหลายประเทศต้องคอยถึงปีค.ศ.2022 ถึงจะสามารถได้รับวัคซีน
ขณะนี้ มีหลายประเทศให้ความสำคัญต่อวัคซีนของประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา วัคซีนโควิด-19 ของจีนชุดแรกที่มีจำนวน 1,000,000 โดสถูกส่งถึงกรุงเบลเกรด นายอเล็กซานดาร์ วูชิช ประธานาธิบดีเซอร์เบีย นำคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลเดินทางถึงสนามบินต้อนรับการมาถึงของวัคซีนดังกล่าว และเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา นายซลาติบอร์ ลองการ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเซอร์เบียเข้ารับการฉีดวัคซีนจีนที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติเซอร์เบีย นับเป็นคนแรกของประเทศเซอร์เบียและของทวีปยุโรปที่ได้รับฉีดวัคซีนจีน
เมื่อเร็วๆนี้ องค์การอนามัยโลกเผยว่า ปัจจุบันมีวัคซีนทั้งหมด 13 ชนิดอยู่ในขั้นตอนการประเมินผลที่รวมวัคซีนจีน 2 ชนิดด้วย โดยมี 3 ชนิดเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการประเมินผล ซึ่งอาจถูกจัดอยู่ในรายชื่อใช้งานกรณีฉุกเฉิน องค์การอนามัยโลกเน้นว่า จะใช้ความพยายามเพื่อประกันให้ทุกประเทศคนทุกคนล้วนมีโอกาสได้รับวัคซีน แต่การดำเนินงานฉีดวัคซีนไม่ได้หมายความว่า เอาชนะโรคระบาดได้แล้ว ผู้คนยังจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยครั้ง และเว้นระยะห่างทางสังคม
(Yim/Zi)