เนื่องจากทั่วประเทศจีน ชาวจีนมีการรับประทานอาหารในรูปแบบหม้อไฟ เพื่อได้ของกินที่สดๆ ร้อนๆ และพร้อมกับการพัฒนาของสังคม รูปแบบการกินก็เผยแพร่ไปต่างถิ่นและได้รับความนิยมซึ่งกันและกัน
อย่างเช่น ที่ชาวจีนแม้กระทั่งชาวโลกรู้จักกัน หม้อไฟฉงชิ่งที่มีความเผ็ดจัด แต่เมืองอีกเมืองหนึ่งที่ไม่ไกลจากนครฉงชิ่ง คือ เมืองเฉิงตู จะขึ้นชื่อด้วยหม้อไฟเห็ดนานาชนิด จนได้ลือชื่อว่า “หม้อไฟเห็ดพันชนิด” ฟังแล้วก็รู้ว่ามีเห็ดสารพัดจำนวนมากมาย
หม้อไฟเห็ดนานาชนิดได้รับความนิยมที่เมืองเฉิงตู เพราะว่าสภาพภูมิอากาศที่โน่นเหมาะกับการเติบโตของเห็ด และการรับประทานเห็ดนั้น เชื่อว่านอกจากมีสารอาหารมากมายหลายอย่างแล้ว เห็ดยังมีสรรพคุณช่วยขับถ่ายของเสียและพิษออกจากร่างกายด้วย พอเข้าสู่สังคมและได้รับความนิยมแล้ว เริ่มมีการปรับปรุงให้มีความเด่นมากขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของผู้คน พัฒนาขึ้นมาเป็นหม้อไฟสมุนไพรจากการที่ชาวจีนมีความนิยมและความเคยชินในการปรุงอาหารด้วยวิธีใส่สมุนไพรเข้าไปเพื่อบำรุงสุขภาพ นี่ก็เป็นแนวโน้มการพัฒนาของหม้อไฟที่คงจะมีอนาคตกว้างไกล และจำได้ว่า ประเทศเพื่อนบ้านของจีน ก็ได้นิยมต้มสมุนไพรพร้อมกับการทำอาหารด้วย เช่นเกาหลีใต้ ใส่โสมเข้าไปด้วย
ที่ประเทศเกาหลีใต้ ก็มีประเพณีรับประทานหม้อไฟ โดยเฉพาะหม้อไฟซี่โครงวัว ร้านที่มีชื่อเสียงและดั้งเดิม จะคัดเลือกวัวอายุประมาณ 1 ปี หนักประมาณ 100 กิโลกรัม ตัดซี่โครงตอนกลางเท่านั้น เนื้อจะอ่อน และไม่มีไขมัน มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
ทานหม้อไฟร้อนๆ และหมี่เกาหลีเย็น สะใจมากๆ
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีหม้อไฟซูซิ ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะชาวนา จะจัดเนื้อปลาและผักใส่เข้าไปในหม้อ ต้มไปกินไป ต่อมาชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีเนื้อวัวคุณภาพดี ก็เพิ่มเข้าไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม อาหารทะเลเป็นหลักของหม้อไฟญี่ปุ่น
นอกจากนี้ วัยรุ่นยังคงชอบหม้อไฟอีกอย่างหนึ่ง คือ หม้อไฟช็อกโกแลต หรือ หม้อไฟไอสกรีม จะเป็นอาหารหวาน หรือ ของว่าง ร้านขายไอสกรีม เช่น ฮาเก็นตาส ก็มีไอสกรีมชุดหม้อไฟ จะเป็นหม้อเล็กๆ ใส่ช็อกโกเล็กร้อนๆที่เป็นของเหลวอยู่ข้างใน ข้างล่างจะจุดเทียนให้อุ่นตลอด รอบข้างจะมีไอสกรีมและผลไม้หลายๆชนิด อยากทานอะไรก็หยิบไปจิ้มช็อกโกแลต พอช็อกโกแลตเจอกับความเย็น จะแข็งตัว อร่อยทีเดียว
Yim/Ping/Ping