เมื่อนักประวัติศาสตร์บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงทศวรรษที่ 3 ของศตวรรษที่ 21 นอกจากจะเอ่ยถึงการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรงในทั่วโลกแล้ว ยังจะต้องบันทึกถึงปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในจีนด้วยอย่างแน่นอน
ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีนได้ทำสงครามขจัดความยากจนที่มีขนาดใหญ่สุด และทุ่มเทกำลังมากที่สุดในโลก ทำให้ประชากรประมาณ 100 ล้านคนพ้นจากภาวะยากจน และสามารถบรรลุเป้าหมายบรรเทาความยากจนที่ระบุไว้ในวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติล่วงหน้า 10 ปี ทั้งนี้หมายความว่า ประชากรชาวจีน 1,400 ล้านคนจะสามารถก้าวเข้าสู่สังคมพอกินพอใช้ในทุกด้านอย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อย้อนกลับไปทบทวนประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลาค่อนข้างยาวนานหลังสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ชนบทในจีนส่วนใหญ่มีปัญหายากจน จนถึง ค.ศ.1978 ประชากรในชนบทจีนที่มีปัญหายากจนมากถึง 97.5% เป็นจำนวนถึง 770 ล้านคน
หลังจีนดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ ประชาชนในชนบทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชากรที่มีปัญหายากจนลดน้อยลงอย่างมาก หลังเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 จีนได้ปฏิบัติตามแผนการแก้ไขปัญหายากจนในพื้นที่ชนบทในระยะเวลา 10 ปีรวมสองฉบับ และได้ยกระดับมาตรฐานในการแก้ไขปัญหาความยากจนสองครั้ง
จนถึง ค.ศ.2012 ประชากรที่มีปัญหายากจนในชนบทจีนยังมี 98.99 ล้านคน ประชากรที่มีปัญหายากจนคิดเป็น 10.2% ของประชากรในพื้นที่ชนบท จากประสบการณ์ของประชาคมโลก เมื่อประชากรที่มีปัญหายากจนมีต่ำกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด นั่นหมายความว่า การแก้ไขปัญหาความยากจนได้เข้าสู่ช่วงที่ยากลำบากที่สุด
หลังการประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2012 นายสี จิ้นผิง เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน การประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 ได้วางแผนยุทธศาสตร์ในการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้าน และถือการแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นภารกิจที่ต้องประสบความสำเร็จในวาระครบรอบร้อยปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์
ระหว่างวันที่ 29-30 ธันวาคม ค.ศ.2012 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงพื้นที่หมู่บ้านลั่วโถวานและหมู่บ้านกู้เจียไถของอำเภอฝู่ผิง มณฑลเหอเป่ย เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนที่มีปัญหายากจน และรณรงค์ให้ทั่วทั้งพรรคและประชาชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายากจน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า ภารกิจที่ยากลำบากที่สุดในการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้านนั้นอยู่ที่ชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ที่พื้นที่ยากจน หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างสังคมพอกินพอใช้ในชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ยากจน ก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้านได้ เขาเน้นว่า การขจัดความยากจน การปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และการบรรลุความมั่งคั่งร่วมกันนั้นเป็นความต้องการเชิงเนื้อแท้ของลัทธิสังคมนิยม
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้บัญชาการ วางแผน และกำกับดูแลด้วยตนเอง การแก้ไขปัญหาความยากจนในจีนได้เข้าสู่ช่วงประวัติศาสตร์ใหม่
ช่วง 8 ปีมานี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ขึ้นเขาลงห้วยท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายต่างๆ เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบการแก้ไขปัญหายากจนในกว่า 20 หมู่บ้านในเขตพื้นที่ที่มีปัญหาความยากจน 14 เขต
พี่น้องเกษตรกรเล่าว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้มาเยี่ยมถึงบ้าน พวกเขามีโอกาสพูดคุยกับท่านอย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ป่าไม้คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเคยมาเยี่ยมถึงที่บ้านเขา และได้สอบถามถึงรายละเอียดของชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว เจ้าหน้าที่หมู่บ้านคนหนึ่งก็เล่าว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังได้ถามว่า เมื่อปีที่แล้ว หนุ่มในหมู่บ้านที่แต่งงานมีครอบครัวใหม่มีกี่คน ซึ่งมีผู้สูงอายุคนหนึ่งยกนิ้วหัวแม่มือและกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงว่า “ท่านปฏิบัติหน้าที่ได้เยี่ยมจริงๆ ”
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เคยทำงานในพื้นที่ชนบทมาก่อนมีความผูกพันกับพี่น้องเกษตรกรอย่างมาก ช่วงที่เขาไปทำงานที่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอ มณฑลส่านซี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ความปรารถนาใหญ่สุดของนายสี จิ้นผิงคือ พี่น้องในหมู่บ้านจะมีโอกาสได้กินเนื้อสักมื้อหนึ่ง และช่วงที่เขาทำงานในอำเภอเจิ้งติ้ง มณฑลเหอเป่ย ทางภาคเหนือของจีน นายสี จิ้นผิงก็ทุ่มเทกำลังเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหายากจนของพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตธัญญาหารสำคัญในจีน
ช่วงที่สี จิ้นผิงทำงานในเมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ทางภาคใต้ของจีน เขารณรงค์ให้คนในพื้นที่ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการแก้ไขปัญหาความยากจน สรุปได้ว่า ไม่ว่านายสี จิ้นผิง เข้ารับตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับแกนนำในพื้นที่ไหนก็ตาม เช่น มณฑลเจ้อเจียง นครเซี่ยงไฮ้ หรือในรัฐบาลกลาง เขาได้ทุ่มเทกำลังมากที่สุดในการแก้ไขปัญหาความยากจน
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การประชุมสรุปประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้มอบรางวัลและเกียรติบัตรให้แก่ผู้รับรางวัลเกียรติยศระดับชาติในการแก้ไขปัญหาความยากจน และได้กล่าวปราศรัยสำคัญในงาน โดยได้ประกาศอย่างหนักแน่นว่า จากการใช้ความพยายามร่วมกันของทั่วทั้งพรรคและประชาชนชนเผ่าต่างๆทั่วประเทศ จีนได้ชัยชนะในการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างรอบด้าน ประชากร 98.99 ล้านคนในพื้นที่ชนบทที่มีปัญหายากจนได้พ้นจากภาวะยากจนตามมาตรฐานในขณะนี้ อำเภอ 832 แห่งถูกลบชื่อออกจากบัญชีอำเภอที่มีปัญหาความยากจนทั้งหมด หมู่บ้านยากจน 128,000 แห่งได้พ้นจากสภาวะยากจน ปัญหาความยากจนในทุกภูมิภาคได้รับการแก้ไขได้แล้ว ภารกิจที่ยากลำบากในการแก้ไขปัญหาความยากจนสุดขีดได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว จีนได้สร้างอีกหนึ่งปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของมนุษยชาติ
(Yim/cai/lu)