บทวิเคราะห์ : จีนยืนหยัดผลักดันวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม

2021-03-09 15:46:02 | CRI
Share with:

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ชี้ให้เห็นในงานแถลงข่าวของสองสภาฯว่า ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนของจีนหรือวัคซีนจากต่างประเทศ หากมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ก็จะเป็นวัคซีนที่ดี ประเทศที่มีความสามารถทั้งหมดควรพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนในประเทศต่างๆ เข้าถึงวัคซีนที่มีราคาไม่แพง จึงจะเป็นวัคซีนของประชาชนอย่างแท้จริง

คำพูดของนายหวังอี้นี้สอดคล้องกับคำมั่นที่ให้วัคซีนเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระดับโลกที่จีนประกาศก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามและความรับผิดชอบของจีนที่เป็นประเทศใหญ่

การยืนหยัด "คุณลักษณะแรกที่เป็นผลิตภัณฑ์วัคซีนสาธารณะ" "เป็นกลุ่มแรกของความร่วมมือระหว่างประเทศด้านวัคซีน" และ "เป็นประเทศกลุ่มแรกที่รับผิดชอบว่าจะกระจายวัคซีนอย่างเป็นธรรม" ก็เป็นความพยายามอย่างแข็งขันของจีนในการฉีดวัคซีนโควิด-19

จากวัคซีน 17 ชนิด ที่เข้าสู่การทดลองทางคลินิก ได้รับการอนุมัติใช้อย่างฉุกเฉินจากกว่า 60 ประเทศ ให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนฟรีแก่ 69 ประเทศกำลังพัฒนาที่จำเป็นเร่งด่วน และส่งออกวัคซีนไปยัง 43 ประเทศ ไปจนถึงการบริจาควัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของประเทศต่างๆและให้วัคซีนกับนักกีฬาที่เตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันงานกีฬาโอลิมปิก จีนได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่มีต่อโลกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

สิ่งที่มีค่าอย่างยิ่งคือ การส่งออกและช่วยเหลือเรื่องวัคซีนของจีนไม่เคยมีเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือไม่ยึดติดเงื่อนไขทางการเมืองใด ๆ แต่เริ่มต้นจากมุมมองของการมีอนาคตร่วมกันและมนุษยธรรม ด้วยเหตุนี้ วัคซีนของจีนจึงได้รับการประเมินจากทั่วโลกว่าเป็น "เข็มหัวใจแข็งแรง"  "ฝนที่ตกทันเวลา"  และ "เส้นชีวิตสำหรับประเทศกำลังพัฒนา”

แน่นอนว่าการพึ่งพาประเทศแค่ไม่กี่ประเทศ เช่น จีนเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดย่อมไม่เพียงพอ หวังว่าทุกประเทศที่มีความสามารถจะจัดหาวัคซีนให้กับประเทศที่ต้องการ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาเพื่อช่วยให้โลกสามารถเอาชนะการแพร่ระบาด

Bo/kt/patt

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

张楠