‘สี จิ้นผิง’แก้ปัญหายากสุดในภารกิจขจัดความยากจน : อดีตผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาความยากจนจีนเล่าเรื่องการขจัดความยากจน (ตอนที่ 2)

2021-03-25 08:39:49 | CMG
Share with:

นายหลิว หย่งฟู่ เกิดปี ค.ศ. 1957 เคยผ่านช่วงเวลาแร้นแค้นและขาดแคลนปัจจัยดำรงชีวิตอย่างหนักในช่วงเริ่มแรกหลังการสถาปนาจีนใหม่ เขาเคยทำงานในหน่วยงานรัฐทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและประกันสังคม รวมถึงรองผู้ว่าการมณฑลกานซู่ และต่อมาเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาความยากจนแห่งคณะรัฐมนตรีจีน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในภารกิจบรรเทาความยากจนมากที่สุดคนหนึ่ง นายหลิว หย่งฟู่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโดยเล่าถึงการขจัดความยากจนของจีนในมุมมองของเขาอย่างครอบคลุม

‘สี จิ้นผิง’ แก้ปัญหายากสุดในภารกิจขจัดความยากจน : อดีตผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาความยากจนจีนเล่าเรื่องการขจัดความยากจน (ตอนที่ 2)_fororder_刘永富

นายหลิว หย่งฟู่ กล่าวถึงประเด็นปธน.สี จิ้นผิงแก้ปัญหายุ่งยากที่สุดในภารกิจขจัดความยากจนของจีน

ในอดีตมีปัญหาลึกซึ้ง 2 ประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อภารกิจขจัดความยากจน ประเด็นแรก คือ ควรทำอย่างไรเพื่อยกระดับความเจาะจงรวมถึงประสิทธิผลของนโยบายบรรเทาความยากจนและบุกเบิกพัฒนา ตลอดจนบรรลุการขจัดความยากจนอย่างจริงจังและการหลุดพ้นความยากจนอย่างแท้จริง ประเด็นที่สอง คือ ต้องกำหนดภาระหน้าที่ของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อระดมความกระตือรือร้นและความคิดริเริ่มของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ

ในที่ประชุมกิจการงานบรรเทาความยากจนและบุกเบิกพัฒนาส่วนกลางปี 2015 สหายผู้รับผิดชอบสำคัญทั้งพรรคและรัฐบาลจาก 22 มณฑล เขตปกครองตนเองและนครที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางในภาคกลางและภาคตะวันตก ได้ลงนาม “หนังสือว่าด้วยภารกิจต่อสู้แก้ไขอุปสรรคและความยากลำบากเพื่อขจัดความยากจน” ต่อคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เลขาธิการใหญ่ สี จิ้นผิง กล่าวว่า นี่ถือเป็นคำสั่งทางทหาร เมื่อลงนามแล้วก็เป็นคำมั่นสัญญาที่ต้องปฏิบัติตาม หากทำดีก็ควรได้รางวัลตามผลงาน แต่หากทำหน้าที่ไม่สำเร็จก็ต้องถูกลงโทษแบบทหาร “การลงโทษแบบทหาร” คือ “การลงโทษสถานหนักตามระเบียบทหาร” นั่นเอง พวกเราต่างรู้ว่าคำสั่งทางทหารมีความเฉียบขาดและจริงจัง ทหารจำเป็นต้องรายงานตัวทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง เมื่อมาแล้วต้องพร้อมสู้รบและเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ จะมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยง หาข้ออ้าง หรือ ขอลดหย่อนภารกิจไม่ได้เป็นอันขาด

การต่อสู้ขจัดความยากจนจำต้องกวดขันการนำของพรรคฯ และการปฏิบัติตามภาระหน้าที่และนโยบาย ทั้งยังต้องดำเนินการโดยผู้นำสูงสุดในระดับต่าง ๆ ด้วย ปธน.สี จิ้นผิงเรียกร้องให้เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน 5 ระดับ (ระดับมณฑล เมือง อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน) ร่วมกันกวดขันงานบรรเทาความยากจน ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานส่วนกลางต่าง ๆ ต่างกวดขันงานบรรเทาความยากจนด้วยตนเองทั้งนั้น ทั้งนี้ สอดคล้องกับคำที่เราพูดบ่อย คือ “เรื่องยากแต่เมื่อหัวหน้าลุยเองก็จะไม่ยาก” ผู้นำหมายเลขหนึ่งทั้งพรรคและรัฐบาลในอำเภอยากจนจะต้องคงไว้ซึ่งเสถียรภาพ จะไม่พิจารณาเลื่อนตำแหน่งจนกว่าจะบรรลุภารกิจขจัดความยากจนในท้องถิ่น เพื่อประกันความต่อเนื่องของงานบรรเทาความยากจนและประกันให้แผนงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับการปฏิบัติตาม เมื่อปธน.สี จิ้นผิงกวดขันอย่างจริงจัง เลขาธิการพรรคฯ ทั้ง 5 ระดับก็จะดำเนินการอย่างจริงจังตาม การทำงานของสำนักงานบรรเทาความยากจนก็จะราบรื่นยิ่งขึ้น ในช่วงต่อสู้กับความยากจน มีเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองในพื้นที่ยากจนสุดขีดบางแห่ง ซึ่งโดยตำแหน่งเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับมณฑลแล้ว สามารถใช้สิทธิและสวัสดิการระดับรองผู้ว่าการมณฑลหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการได้ แต่ทางมณฑลไม่แบ่งงานในระดับนี้ให้ แต่ให้ทำงานประจำเมืองเพื่อบรรเทาความยากจนต่อไปโดยถือภารกิจขจัดความยากจนเป็นภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของพวกเขา

ภายหลังประกาศสงครามต่อสู้กับความยากจน คำอวยพรปีใหม่แต่ละปีของปธน.สี จิ้นผิงต่างมีเนื้อหาเกี่ยวกับการบรรเทาความยากจน การลงพื้นที่ตรวจงานภายในประเทศครั้งแรกของทุกปีต่างเลือกไปพื้นที่ยากจน ระหว่างการประชุม “สองสภา” ทุกปี ปธน.สี จิ้นผิงต่างร่วมปรึกษาหารือประเด็นการบรรเทาความยากจนกับบรรดาผู้แทนประชาชนแห่งชาติและกรรมการประจำสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน นายสี จิ้นผิงเรียกประชุมสัมมนาว่าด้วยการขจัดความยากจนอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อออกคำสั่งและวางแผนงานสำคัญเชิงขั้นตอน

ในด้านการประเมินผลลัพธ์การขจัดความยากจน ปธน.สี จิ้นผิงจะเป็นประธานเรียกประชุมปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการประชุมกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อรับฟังรายงานผลการประเมิน หากผลงานโดดเด่นก็ชมเชย แต่หากผลงานไม่เข้าตาก็จะ “เรียกคุย” ตลอดจนมอบหมายให้ผู้นำสายงานบรรเทาความยากจนทั้งคณะกรรมการกลางพรรคฯ และคณะรัฐมนตรีเรียกเลขาธิการและรองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑล รวมถึงผู้ว่าการและรองผู้ว่าการมณฑลเข้าพบ การ “เรียกคุย” มีความเข้มงวดจริงจังโดยยึดผลงานเป็นที่ตั้ง

การเริ่มประเมินผลลัพธ์ครั้งแรกในค.ศ. 2017 ดำเนินไปอย่างจริงจัง ใน 22 มณฑล (รวมเขตปกครองตนเองและนครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง) ที่ได้รับการประเมินนั้น มี 8 มณฑลทำผลงานได้ดี 6 มณฑลทำผลงานพอใช้ได้ และที่เหลืออีก 8 มณฑลทำผลงานไม่ดีเลย จึงถูก “เรียกคุย” มาตรการนี้ส่งผลกระทบกระเทือนอย่างมาก ท้องที่ต่าง ๆ พากันเร่งทบทวนการทำงานและดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ความต้องการของปธน.สี จิ้นผิงนั้นถือว่ามีความเข้มงวดมาโดยตลอด สะท้อนให้เห็นถึงการแบกรับพันธกิจและเจตจำนงอันแน่วแน่ในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา

ในแต่ละช่วงของภารกิจแก้ไขความยากจน ปธน.สี จิ้นผิงกำหนดจุดเน้นหนักในการทำงานที่แตกต่างกัน ในช่วงเริ่มแรกของภารกิจขจัดความยากจน ปธน.สี จี้นผิงกล่าวย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าถึงความสำคัญ ความหนักหน่วง และความเร่งด่วนของการเอาชนะสงครามต่อสู้ความยากจน หลังกำหนดเป้าหมาย ภาระหน้าที่ ตลอดจนยุทธศาสตร์พื้นฐานอย่างชัดเจน ปธน.สี จิ้นผิงเรียกร้องให้ใช้นโยบายและมาตรการพิเศษเสริมสร้างหลักประกัน ในช่วงกลางภารกิจขจัดความยากจน ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าถึงการปฏิบัติตามแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมและจริงจัง การรวมพลังพิชิต “ป้อมปราการ” แห่งความยากจนสุดขีด การแก้ไขปัญหาโดดเด่น “สองหมดห่วงและสามหลักประกัน” (สองหมดห่วง หมายถึง ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ส่วนสามหลักประกัน หมายถึง หลักประกันด้านการศึกษาภาคบังคับ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน และความปลอดภัยด้านที่อยู่อาศัย) การยกระดับคุณภาพการขจัดความยากจน การเสริมสร้างท่วงทำนองและขีดความสามารถ การขจัดพฤติกรรมรูปแบบนิยมและลัทธิเจ้าขุนมูลนาย ตลอดจนการป้องกัน “การหลุดพ้นความยากจนทางตัวเลขและการหลุดพ้นความยากจนอันเป็นเท็จ” ในช่วงท้ายของภารกิจขจัดความยากจน ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวเน้นเป็นพิเศษให้ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงที่สุด ป้องกันความเฉื่อยชาและหย่อนยาน โดยเฉพาะหลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการขจัดความยากจน ปี 2020 จีนเผชิญการระบาดของโควิด-19 ที่อุบัติขึ้นอย่างฉับพลัน ปธน.สี จิ้นผิงเรียกประชุมหลายครั้งเพื่อวางแผนงาน โดยกล่าวเน้นว่าพร้อมไปกับการต้านโควิด-19 การทำงานขจัดความยากจนต้องเดินหน้าต่อไปโดยจะหยุดชั่วคราวไว้ก่อนหรือชะลอความเร็วลงไม่ได้ หากต้องบรรลุเป้าหมายและภาระหน้าที่ด้วยคุณภาพสูงเพื่อประกันชัยชนะแห่งสงครามต่อสู้กับความยากจนอย่างรอบด้านให้ได้ หลังจีนประสบชัยชนะเชิงชี้ขาดในการขจัดความยากจน ปธน.สี จิ้นผิงได้วางแผนงานสำคัญต่าง ๆ เช่น การกำหนดช่วงระยะเปลี่ยนผ่านเพื่อบรรลุการเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิผลระหว่างการเสริมสร้างผลลัพธ์การขจัดความยากจนกับการพัฒนาพื้นที่ชนบทให้เจริญรุ่งเรือง การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และระบบการทำงานด้านการบรรเทาความยากจนให้ปรับเปลี่ยนสู่ภารกิจอื่นอย่างมั่นคง

สำหรับภารกิจขจัดความยากจนของจีน ปธน.สี จิ้นผิงดำเนินการศึกษาวิจัย วางแผนงาน กวดขันนโยบาย รวมถึงมาตรการต่าง ๆ ให้เข้าสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและจริงจังด้วยตนเองมาโดยตลอด สามารถแก้ไขปัญหาสำคัญต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิผลโดยพิจารณาจากผลการบรรลุเป้าหมายและภาระหน้าที่ ตลอดจนความคืบหน้าของการทำงานขจัดความยากจนและปัญหาที่ดำรงอยู่ระหว่างการดำเนินการ

TIM/LU

  • เสียงข่าวประจำวัน (26-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (26-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (26-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (25-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (25-11-2567)

陆永江