นักวิชาการสิงคโปร์ชี้จีนไม่ใช่สหภาพโซเวียตที่สหรัฐจะข่มเหงได้

2021-04-12 11:36:14 | CRI
Share with:

นักวิชาการสิงคโปร์ชี้จีนไม่ใช่สหภาพโซเวียตที่สหรัฐจะข่มเหงได้_fororder_1

วันที่ 2 เมษายน ศาสตราจารย์ คิชอร์ มาห์บูบานี (Kishore Mahbubani) นักวิจัยจากสถาบันเอเชียศึกษาของ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์  อดีตนักการทูตสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ Le temps  ของสวิสเซอร์แลนด์ ในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ  และการพัฒนาของจีน โดยได้แสดงความคิดเห็นที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและถูกต้อง

นักวิชาการสิงคโปร์ชี้จีนไม่ใช่สหภาพโซเวียตที่สหรัฐจะข่มเหงได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการคาดการณ์ว่าจีนจะชนะ และการทำตัวเป็นผู้ปกครองโลกของสหรัฐฯจะสิ้นสุดลงนั้นเกินความจริงหรือไม่? นายคิชอร์ ตอบว่า  เขาไม่ได้มองว่าจีนจะชนะ เพราะสหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่เข้มแข็งที่สุดในโลก  จึงอย่าประเมินสหรัฐฯต่ำเกินไป    แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรประเมินจีนต่ำเกินไปเช่นกัน   แท้ที่จริงแล้ว   สหรัฐฯ ได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงหลายเรื่อง  เช่น ได้ทำการต่อสู้ทางภูมิรัฐศาสตร์กับจีน โดยไม่มีการชี้นำทางยุทธศาสตร์ใดๆ   สหรัฐฯคงคิดว่าการแข่งขันระหว่างจีน-สหรัฐฯ คล้ายคลึงกับการชิงอำนาจความเป็นใหญ่ในโลกกับอดีตสหภาพโซเวียต  แต่จีนไม่ใช่สหภาพโซเวียต

ศาสตราจารย์คิชอร์ กล่าวด้วยว่า ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังรับฟังคำปราศรัยของนายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ที่กล่าวในงานครั้งหนึ่งเมื่อปี 2018 เกี่ยวกับยุทธศาสตร์การเดินหมากล้อม   นายคิสซิงเจอร์เห็นว่า จีนมักจะพิจารณาประเด็นปัญหาทางยุทธศาสตร์ในระยะยาว 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดที่ผ่านมานึกว่า สหรัฐฯจะสามารถเปลี่ยนให้จีนเป็นประเทศที่เรียกว่า “ประเทศเสรี และประชาธิปไตย” ได้ด้วยวิธีการท้าทายจีนทางด้านเศรษฐกิจ   และนายปอมเปโอ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และนายไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ยังเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถโค่นอำนาจรัฐของจีนได้อีกด้วย     นายคิชอร์มองความเห็นดังกล่าวของนักการเมืองสหรัฐฯ เป็นเรื่องเพ้อฝัน  ไร้สาระ และหยิ่งยโส 

เขาชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯที่นำโดยนายโจ ไบเดนอาจกำลังเดินตามความผิดพลาดในทำนองเดียวกัน   นายโจ ไบเดนมีความคิดว่า นโยบายของรัฐบาลทรัมป์ต่อจีนส่วนใหญ่ไม่ถูกต้อง ยกเว้นนโยบายคว่ำบาตรทางการค้าต่อจีน  ดังนั้นประธานาธิบดีไบเดนจึงไม่ยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อจีน  แต่ข้อเท็จจริงคือ นโยบายต่อต้านจีนของรัฐบาลทรัมป์ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำให้จีนอ่อนแอลง แต่กลับทำให้จีนเข้มแข็งมากขึ้น 

ศาสตราจารย์คิชอร์ มาห์บูบานี กล่าวว่า สหรัฐฯนึกว่าจะสามารถชนะในการแข่งขันกับจีน  เพราะคล้ายกับตอนชิงอำนาจความเป็นใหญ่ในโลกกับอดีตสหภาพโซเวียต  อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เรียกว่า “ประชาธิปไตยที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา” ของสหรัฐฯ จะสามารถเอาชนะระบบสังคมอื่นๆ ตลอดไป    แต่ที่จริงแล้ว  สหรัฐฯ ไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตยที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาอีกแล้ว    ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา  จำนวนประชากร 50% ที่มีรายได้ต่ำสุดในสหรัฐฯ มีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ชนชั้นกรรมกรชาวผิวขาวตกอยู่ในภาวะสิ้นหวัง   ในขณะที่จีนกลับตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ  ความสำเร็จของจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความได้เปรียบทางระบบคือ มีโมเดลที่มีประสิทธิภาพในการคัดเลือกบุคลากร  และจัดให้บุคลากรที่มีคุณภาพอยู่ในตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในการบริหารประเทศ  

วิธีบริหารประเทศของจีนมีคุณภาพสูงกว่าสหรัฐฯ   ทั้งนี้เห็นได้จากวิธีการของทั้งสองประเทศในการจัดการกับการระบาดของโควิด-19  จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 500,000 คน  ขณะที่จีนมีไม่เกิน 5,000 คน สหรัฐฯต้องเข้าใจว่า จีนในปัจจุบันไม่ใช่อดีตสหภาพโซเวียต    นอกจากนี้  ในการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน  สหรัฐฯ ใช้ปฏิบัติการที่คล้ายกับอดีตสหภาพโซเวียตมากกว่า    คือ กระบวนการกำหนดนโยบายของสหรัฐฯ มีความตายตัว  ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สหรัฐฯยกทัพเข้ารุกรานประเทศอิรักเมื่อปี 2003 แต่จีนกลับใช้ปัญญาในการกำหนดนโยบายป้องกันประเทศ  เช่น ตัดสินใจไม่เพิ่มปริมาณสำรองของอาวุธนิวเคลียร์  เป็นต้น

(bo/cai)

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

蔡建新