วันคุ้มครองโลก 22 เมษายนของทุกปีใกล้จะมาถึง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติจีนกำหนดหัวข้อปีนี้คือ “คุ้มครองโลก มนุษย์เคียงคู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน”
โลกเป็นบ้านหลังเดียวกันของมนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ แต่พฤติกรรมของมนุษย์กลับทำลายโลกอย่างร้ายแรง ป่าไม้ ทะเลสาบ พื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตต่างๆ กำลังสูญหายไปด้วยความเร็วที่เหนือการคาดคิด ถ่านหิน น้ำมันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานที่หมุนเวียนไม่ได้นั้น ถูกขุดไปใช้ใกล้จะหมดสิ้น การเผาพลังงานที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก ทำให้โลกร้อนขึ้น ทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายมากขึ้น จนผิวน้ำของมหาสมุทรยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาภาวะแวดล้อมเหล่านี้ ได้คุกคามการดำรงอยู่ของมนุษย์ต่อเนื่องทุกขณะ การอนุรักษ์ทรัพยากรโลกและหาแนวทางการพัฒนาแบบยั่งยืนกลายเป็นเรื่องที่เร่งด่วน
จีนได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์วันคุ้มครองโลกทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-25 เมษายนนี้ ในช่วงนี้ ท้องที่ต่างๆของจีนจะประชาสัมพันธ์ “การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์และความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตเป็นสำคัญ” โดยมีฉายสารคดีรณรงค์และผลิตผลงานสื่อใหม่ที่เกี่ยวข้อง จัดประกวดความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติผ่านออนไลน์ จัดสัปดาห์ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับวันคุ้มครองโลก และการบรรยายให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านทรัพยากรธรรมชาติให้ทั่วถึง เป็นต้น
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนระบุว่า ภูเขา ลำน้ำ ป่าไม้ ผืนดิน ล้วนเป็นประชาคมแห่งชีวิต ชีพจรของคนมาจากไร่นา ชีพจรของไร่นามาจากน้ำ ชีพจรของน้ำมาจากภูเขา ชีพจรของภูเขามาจากดิน ชีพจรของดินมาจากต้นไม้ ด้วยเหตุนี้ ปธน.สี ส่งเสริมให้เคารพธรรมชาติ สอดคล้องกับธรรมชาติ และอนุรักษ์ธรรมชาติ ปธน.สี เน้นย้ำว่า ต้องจัดให้แนวคิด “ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์” บรรจุอยู่ในกระบวนการสร้างสรรค์อารยธรรมนิเวศ ต้องบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนแตะเพดานสูงสุดก่อนค.ศ.2030 และการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ก่อนค.ศ.2060
ทั่วทั้งสังคมจีนต้องใช้ปฏิบัติการต่างๆเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหนุ่มสาวจีนก่อตั้งขึ้น ค.ศ. 2007 เป็นองค์การสาธารณะประโยชน์แห่งแรกของหนุ่มสาวจีนที่มุ่งมั่นรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยรณรงค์ให้หนุ่มสาวจีนรวมพลังและใช้ปฏิบัติการร่วมกัน อีกทั้งดำเนินความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้มวลชนมีจิตสำนึกในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก และกระตุ้นให้รัฐบาลและสังคมร่วมกันรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ปีหลังๆมานี้ องค์การดังกล่าวเดินหน้า “โครงการการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในมหาวิทยาลัยปี 2030” โดยทดลองปฏิบัติในมหาวิทยาลัยต่างๆ ส่งเสริมแนวคิดพัฒนามหาวิทยาลัยแบบประหยัดและลดพลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอนแห่งชาติ ปัจจุบัน มีสถาบันอุดมศึกษาจำนวนกว่า 500 แห่ง และหนุ่มสาวจำนวนกว่าแสนคนได้เข้าร่วมโครงการนี้
เกาะเหมยซาน เมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ริเริ่มพัฒนาเขตสาทิตการปล่อยคาร์บอนใกล้เป็นศูนย์ระหว่างประเทศตั้งแต่ต้นปี 2008 “การปล่อยคาร์บอนใกล้เป็นศูนย์” หมายถึง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้การปล่อยคาร์บอนบนเกาะเหมยซานใกล้เป็นศูนย์ เกาะเหมยซานทุ่มกำลังลดการปล่อยคาร์บอนด้านอุตสาหกรรม การก่อสร้าง การคมนาคม และการกำเนิดไฟฟ้าเป็นสำคัญ แล้วหันไปพัฒนาศักยภาพด้านการกำเนิดไฟฟ้าด้วยพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานสะอาดต่างๆ ใช้เทคโนโลยีปล่อยคาร์บอนต่ำอย่างครอบคลุม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอกจากนี้ เกาะเหมยซานยังวางแผนใช้พลังงานที่หมุนเวียนได้คิดเป็น 71% ของยอดการบริโภคพลังงานที่ใช้งานได้เพียงครั้งเดียว ให้กำเนิดไฟฟ้าด้วยพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงามมหาสมุทรคิดเป็น 90% ในการสนองไฟฟ้า
ปัจจุบัน โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดในทั่วโลกอยู่ ผู้คนอาจจะลืมหรือมองข้ามวิกฤตระบบนิเวศของโลกได้ ทว่าปัญหา PM2.5 ที่ก่อกวนเมืองไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พายุทรายที่ถล่มทางเหนือของจีนช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ตลอดจนการที่ญี่ปุ่นประกาศว่าจะปล่อยน้ำเสียพลังงานนิวเคลียร์สู่ทะเลในเร็วๆนี้ ต่างเตือนใจเราทุกคนว่า ต้องร่วมกันคุ้มครองโลก เพื่อให้มนุษย์กับธรรมชาติดำรงอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน(Yim/Zhou)