วันที่ 10 มิถุนายน คณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนลงมติผ่าน “กฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศ” (the law against foreign sanctions) เป็นการบ่งบอกว่า จีนบัญญัติกฎหมายมุ่งต่อต้านการคว่ำบาตร การก้าวก่ายจากต่างประเทศ และการยื่นมือเข้ามายุ่มย่าม จะรับมือกับการท้าทายและความเสี่ยงจากกลุ่มอิทธิพลภายนอกอย่างเยือกเย็น
อนึ่ง ต้องอธิบายว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่กฎหมายว่าด้วยการคว่ำบาตร แต่เป็นกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศ หัวใจสำคัญของการบัญญัติกฎหมายอยู่ที่การต่อต้าน ก็คือเมื่อมีการคว่ำบาตรจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายก่อน จีนจึงจะใช้มาตรการต่อต้านที่เท่าเทียมโต้กลับ กล่าวได้ว่ามีมารยาทมีพลังตามความเหมาะสม ซึ่งวัตถุประสงค์การบัญญัติกฎหมายคือเพื่อพิทักษ์สิทธิและศักดิ์ศรีของจีน คุ้มครององค์การและบุคคลของจีนไม่ให้ถูกกดขี่และรังแกจากกลุ่มอิทธิพลภายนอก
เป็นที่ทราบกันว่า ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ผ่านมา บางประเทศตะวันตกมีอคติทางอุดมการณ์และพยายามก้าวก่ายเพื่อมุ่งประโยชน์ทางการเมืองของตน ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศและกฎระเบียบพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อ้างอิงกฎหมายของประเทศตนดำเนินการ “คว่ำบาตร” ต่อองค์กรหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ภาครัฐของจีน แทรกแซงกจิการภายในของจีนอย่างรุนแรง โดยประเทศเหล่านี้ใช้ข้ออ้างในอธิปไตยของจีนเกี่ยวกับซินเจียง ทิเบต ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นต้น คว่ำบาตรองค์การและบุคคลของจีน โดยพฤติกรรมเหล่านี้ฝ่าฝืนหลักการความเสมอภาคของประเทศที่มีอธิปไตยและไม่แทรกแซงกิจการภายในที่กำหนดไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นที่ผิดกฎหมายและไม่มีเหตุมีผลอย่างเด่นชัด
ส่วนจีนเรียกร้องมาโดยตลอดว่า มุ่งพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศต่างๆทั่วโลก บนพื้นฐานแห่งหลักการการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 5 ประการ การบัญญัติกฎหมายของจีนแตกต่างกับการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวของบางประเทศตะวันตกโดยสิ้นเชิง เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันตัวที่มุ่งรับมือและตอบโต้การกดขี่จากบางประเทศตะวันตก ซึ่งจะนำเสนอหลักฐานทางกฎหมายสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินมาตรการต่อต้านการคว่ำบาตรด้วย
ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา กระทรวงการต่างประเทศจีน กระทรวงพาณิชย์จีนได้ประกาศหลายครั้งว่า ดำเนินมาตรการต่อต้านองค์การและบุคคลต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง กล่าวได้ว่า มาตรการต่อต้านการคว่ำบาตรดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นกลไกการบริหาร แต่ขาดแคลนการประคับประคองจากการบัญญัติกฎหมายของชาติ เวลานี้ การออกกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศได้อุดช่องโหว่นี้ เป็นการประกันทางระบบกฎหมายสำหรับจีนในการต่อต้านมาตรการเหยียดหยามจากต่างประเทศ
การที่จีนออกกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศครั้งนี้ก็สอดคล้องกับการปฏิบัติทั่วไปของประเทศต่างๆ หลายประเทศก็ได้กำหนดมาตรการต่อต้านต่างประเทศที่ไม่เป็นมิตรและเหยียดหยาม อย่างเช่น รัสเซียได้บัญญัติการต่อต้านการคว่ำบาตร สหภาพยุโรป แคนาดาและเม็กซิโกก็ได้บัญญัติ “ข้อบังคับสกัดกั้น” (blocking statute) ต่อการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ เพียงฝ่ายเดียว
มีประชามติตะวันตกกังวลว่า การออกกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อการเปิดกว้างสู่ภายนอกและต่างชาติที่ลงทุนกับจีนหรือไม่ นายวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเน้นในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนว่า การออกกฎหมายว่าด้วยการต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศจะสร้างสภาพระบบกฎหมายและสภาพการประกอบธุรกิจที่คาดการณ์ได้ให้กับวิสาหกิจประเทศต่างๆมาพัฒนาในจีน จีนยินดีและสนับสนุนวิสาหกิจต่างชาติประกอบกิจการและดำเนินความร่วมมือในจีน คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของพวกเขาตามกฎหมาย ประตูที่เปิดประเทศของจีนมีแต่ยิ่งเปิดยิ่งกว้างขึ้นอีก จีนมุ่งที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการประกอบธุรกิจกับวิสาหกิจต่างชาติให้ดีขึ้นต่อเนื่อง แบ่งปันโอกาสการพัฒนาของจีนกับทั่วโลก
จีนมีสำนวนเก่าที่ว่า “ใช้กลยุทธ์เธอกับตัวเธอ” แต่ไหนแต่ไรมาชาวจีนไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน และก็ไม่กลัวมีเรื่องด้วย เมื่ออธิปไตย ศักดิ์ศรี และผลประโยชน์ที่เป็นหัวใจสำคัญของตนถูกรุกรานก็พร้อมจะโต้กลับ เป็นความรู้สึกของผู้คนทั่วไป และก็เป็นพฤติกรรมที่ชอบธรรม ทั้งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ และก็สอดคล้องกับปรัชญาการต่างประเทศและหลักการส่วนรวมของจีนมาโดยตลอด
(Yim/Cui)