บทวิเคราะห์ : จีนชี้สหรัฐ-ไต้หวันควรหยุดการสมคบคิดให้ไต้หวันเป็นเอกราชจากจีน

2021-06-13 15:44:43 | CRI
Share with:

หลังจากที่วุฒิสมาชิกสหรัฐ 3 คน “แวะเยือน” ไต้หวันพร้อมระบุว่าจะให้วัคซีนโควิด-19 แก่ไต้หวันแล้ว ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ นาย Edward Markey และนาย Mitt Romney วุฒิสมาชิกสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า จะเรียกประชุมชี้แจงอภิปราย “การส่งเสริมความสัมพันธ์สหรัฐ-ไต้หวัน” ในระยะอันใกล้เพื่อตอบสนองความต้องการพิเศษของไต้หวัน และจะมอบวัคซีนโควิด-19 แก่กองทัพไต้หวัน โดยจีนมองว่าเป็นอุบายระหว่างสหรัฐ-ไต้หวันที่สมคบคิดในเรื่อง“ป้องกันโควิดที่ไม่จริง แต่มุ่งประเด็นแยกไต้หวันออกจากจีน”

ในอดีตสหรัฐเคยใช้ไต้หวันเป็น “แหล่งเงินทุน” ในการจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์และแหล่งส่งออก “เนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงที่อันตราย” แต่ไม่เคยคำนึงถึงประโยชน์ของไต้หวันอย่างจริงจัง การที่เมื่อเร็วๆ นี้สหรัฐสัญญากับไต้หวันว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนนั้น ก็เพื่อให้ทางการไต้หวันเชื่อใจและช่วยสหรัฐในการดำเนินแผนการยับยั้งจีนรอบใหม่ แต่วัคซีน 750,000 โดสตามที่สัญญาไว้ยังคงเป็นแค่ “สัญญาปากเปล่า” จีนเปรียบว่าปริมาณดังกล่าวเหมือนน้ำน้อยแพ้ไฟเมื่อเทียบกับประชากรไต้หวันจำนวน 23,000,000 คน

ส่วนทางการไต้หวันพรรคหมินจิ้นใส่ความทางการจีนแผ่นดินใหญ่ที่ประสงค์จะให้วัคซีนแก่ประชาชนไต้หวัน แต่หันไปขอบคุณสหรัฐผู้เป็น “เจ้านาย” ทำให้พลาดโอกาสในการช่วยชีวิตชาวไต้หวัน

ประเด็นไต้หวันเป็นประโยชน์หลักของจีน เป็นประเด็นสำคัญที่สุดและอ่อนไหวที่สุดในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ สหรัฐควรหยุดการติดต่อทางการและทางการทหารทุกรูปแบบกับไต้หวันทันที ไม่ส่งสัญญาณผิดแก่กลุ่มอิทธิพลที่ “มุ่งให้ไต้หวันแยกออกจากจีน” หากยืนกรานใช้ปฏิบัติการเพื่อให้ไต้หวันแยกออกจากจีน จีนจะตอบโต้ให้ถึงที่สุด

(BO/LING/CAI)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (14-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (13-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (13-11-2567)

何喜玲