หวัง หยางหมิง นักคิดนักปรัชญาสมัยราชวงศ์หมิงกล่าวว่า
“志不立 天下无可成之事”
หากไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน ก็ยากที่จะทำการใดได้สำเร็จ
จะเห็นได้ว่าความทะเยอทะยานสำคัญต่อชีวิตคนเราเพียงใด
เยาวชนต้องปลูกฝังจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
มีอุดมการณ์ที่มั่นคงและศรัทธาที่แรงกล้า
สู้เต็มที่ไม่ท้อถอย อย่ายอมแพ้
ความคิดที่สำคัญในวัฒนธรรมขงจื่อที่ชาวจีนนับถือคือ "การตั้งความปรารถนาอันแรงกล้า" ซึ่งถือเป็นความทะเยอทะยานอันสูงส่งนี้ เมื่อกว่า 500 ปีก่อน หวัง หยางหมิง นักคิดชาวจีนได้กล่าวไว้ว่า “志不立 天下无可成之事 หากไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน ก็ยากจะทำการใดได้สำเร็จ” ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ชาวจีนรุ่นต่อรุ่นคิดตั้งเป้าหมายชีวิต และมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ บรรลุความทะเยอทะยานอันสูงส่งของตนให้ได้
ไทยก็มีสำนวนที่เชิดชูแนวคิดทำนองนี้เหมือนกัน อย่างเช่น “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น คือ ต้องการจะสอนว่า เมื่อมีความมุ่งมาดตั้งใจจริงแล้ว ก็ย่อมทำทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วงได้
ดิฉันคิดว่าความทะเยอทะยานที่ตั้งไว้ตั้งแต่เด็ก มีความสำคัญในการชี้นำตลอดทั้งชีวิต ตอนเด็กๆดิฉันยังจำได้ว่ามักจะมีผู้ใหญ่ถามเราว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร? จำได้ว่าเด็กๆ หลายคนตอบอย่างภาคภูมิใจว่า "อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์!" บางคนบอกว่าอยากเป็นหมอ ครูอนุบาล นักแสดง แต่มีเด็กชายคนหนึ่งอยากจะได้ขับเครื่องบิน และถึงกับเก็บไปฝันว่า ตัวเองมีปีกและโบยบินสู่ฟ้า ต่อมาเขาไม่เพียงได้ขับเครื่องบินทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเท่านั้น แต่ยังได้ออกไปท่องอวกาศถึง 3 ครั้ง กลายเป็นนักบินอวกาศที่ "บินได้" เขาก็คือ เนี่ย ไห่เซิ่ง ผู้บัญชาการทีมนักบินอวกาศจีนที่ปฏิบัติภารกิจนอกโลกอยู่ในขณะนี้
วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา จีนประสบความสำเร็จในยิงส่งยานเสินโจว-12 พร้อมนักบินอวกาศ 3 คน ซึ่งรวมถึงเนี่ย ไห่เซิ่ง ในเวลานั้น ครอบครัวของเนี่ย ไห่เซิ่งอยู่หน้าทีวี พี่สาวคนที่ 2 ของเนี่ย ไห่เซิ่งพูดอย่างตื่นเต้นด้วยน้ำตาว่า ความฝันของเนี่ย ไห่เซิ่งในวัยเด็กคือการขับเครื่องบิน ฉันไม่นึกเลยว่าเมื่อโตขึ้นเขาจะกลายเป็นนักบินอวกาศจริงๆ เนี่ย ไห่เซิ่งได้บรรลุซึ่งความฝันของเขา และได้ไปท่องอวกาศถึง 3 ครั้ง ฉันรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขามาก
Yim/kt
