‘ซู ปิ่งเทียน’ความภาคภูมิใจของจีน และตำนานแห่งเอเชีย (1)

2021-09-09 16:00:39 | ไชน่ามีเดียกรุ๊ป
Share with:

‘ซู ปิ่งเทียน’ ความภาคภูมิใจของจีน และตำนานแห่งเอเชีย(1)_fororder_微信图片_20210909153044

สำหรับนักกีฬาอาชีพเวทีของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเป็นสนามการแข่งขันกีฬาที่ศักดิ์สิทธิ์และสูงส่ง ฉากที่น่าซาบซึ้งใจที่สุดของโอลิมปิกไม่ใช่เฉพาะช่วงเวลาที่คว้าเหรียญทองได้สำเร็จเท่านั้น หากยังรวมไปถึงการกล้าแสดงตัวแบบสุดความสามารถเมื่อเผชิญกับความท้าทายอันหนักหน่วง การสร้างผลงานในลมหายใจเฮือกสุดท้ายและการเอาชนะตัวเองในที่สุดด้วยผลงานที่ไม่เคยมีมาก่อน การแซงหน้าคู่แข่งด้วยการออกแรงสู้อย่างสุดความสามารถ ถึงแม้จะไม่ได้รับเหรียญทองตามความใฝ่ฝัน แต่ก็เป็นการเชิดชูจิตวิญญาณโอลิมปิกที่ว่า “เร็วขึ้น สูงขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นร่วมกัน”

ดังนั้นเจ้าของเหรียญรางวัลโอลิมปิกทุกคนสมควรได้รับการยกย่องชื่นชมในระดับสูง แต่เราก็ไม่ควรลืมนักกีฬาคนอื่น ๆ ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรายการกีฬาแต่ละรายการ นักกีฬาเหล่านี้ถือเป็นวีรชนที่แท้จริง เป็นราชาของการแข่งขันที่ขาดแต่มงกุฎเท่านั้น

เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพูดถึงนักกีฬาจีนคนหนึ่ง เรียกว่าเป็นขวัญใจระดับโลกก็ว่าได้ ทั้งๆ ที่พลาดเหรียญรางวัลโอลิมปิกโตเกียว แต่ก็สร้างสุดยอดผลงานของเขาในโอลิมปิกโตเกียวเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวเอเชียเราจะพูดถึง ซู ปิ่งเทียน นักวิ่งระยะสั้นผู้ได้ฉายา “ความเร็วของจีน” และเจ้าของสถิติการวิ่ง 100 เมตรชายที่เร็วที่สุดของเอเชีย

‘ซู ปิ่งเทียน’ ความภาคภูมิใจของจีน และตำนานแห่งเอเชีย(1)_fororder_微信图片_20210909153057

ค่ำวันที่ 1 สิงหาคม การแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายรอบชิงชนะเลิศของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 จัดขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกโตเกียว ท่ามกลางการรอคอยของผู้ชมทั่วโลก ในบรรดานักวิ่ง 8 คนที่ยืนบนลู่วิ่ง มีมนุษย์ผิวเหลืองชาวเอเชียเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือซู ปิ่งเทียน เจ้าลมกรดชื่อดังของจีน ส่วนคู่แข่งที่เหลืออีก 7 คนเป็นคนผิวสีจากทวีปอเมริกาและยุโรปทั้งนั้น ในฐานะคนผิวเหลืองชาวเอเชียคนแรกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่สามารถเข้ารอบชิงแชมป์รายการวิ่ง 100 เมตรชายของโอลิมปิกเกมส์ ซู ปิ่งเทียนก็ได้เปิดหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์

‘ซู ปิ่งเทียน’ ความภาคภูมิใจของจีน และตำนานแห่งเอเชีย(1)_fororder_微信图片_20210909153050

เสียงปืนที่ให้สัญญาณดังข้ามผ่านน่านฟ้าเหนือสนามกีฬาโอลิมปิกโตเกียว นักวิ่งไฟแรงทุกคนพุ่งออกตัวเสมือนลูกธนูที่ปล่อยออกจากคันธนู ซู ปิ่งเทียน คนวิ่งเร็วที่สุดของจีน เข้าเส้นชายเป็นคนที่ 6 ด้วยเวลา 9.98 วินาที ทำให้เขากลายเป็นชาวเอเชียคนแรกที่เสร็จสิ้นการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายรอบชิงชนะเลิศของงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ถึงแม้ไม่ได้เหรียญรางวัลใดใด แต่ก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งของคนผิวเหลืองทั่วโลก ผลงานของซู ปิ่งเทียน ช้ากว่า Marcell Jacobs นักวิ่งชาวอิตาลีผู้คว้าแชมป์วิ่ง 100 เมตรชายครั้งสำคัญเพียง 0.18 วินาที

ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศพวกที่ 3 ที่จัดขึ้นก่อนรอบชิงเพียง 2 ชั่วโมงก่อน เจ้าลมกรดจีนนามว่า ซู ปิ่งเทียน ชายอายุ 32 ปีจากลู่ที่ 4 วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 9.83 วินาที หลังจากวิ่งเข้าเส้นชัยแล้ว เขาได้แสดงท่าทางและสีหน้าอันตื่นเต้นสุดขีด สร้างสถิติใหม่ของตนเอง เพราะนอกจากเป็นสถิติที่ดีที่สุดของเจ้าตัวแล้ว ยังเป็นสถิติการวิ่ง 100 เมตรที่เร็วที่สุดของเอเซียอีกด้วย ชนิดที่ว่าไม่เคยมีคนเอเซียคนไหนทำได้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นคนผิวเหลืองหรือคนผิวดำก็ตาม

อีกทั้งเจ้าตัวคือคนผิวเหลืองและคนเอเชียคนแรกของโลก ที่ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรในโอลิมปิก เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่แห่งวงการกรีฑาโลกอย่างแท้จริง ทำให้ผู้ชมและแฟนกีฬาทั่วโลกตกตะลึงเป็นอย่างมาก แล้ว 9.83 วินาทีซึ่งเป็นสถิติใหม่แห่งเอเชีย เขาเก่งแค่ไหน? ขอนำผลงานยอดเยี่ยมของยูเซน โบล์ท ตำนานของประวัติศาสตร์กรีฑา แชมป์โอลิมิปิกยิ่งใหญ่เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัย และผู้ที่ครองตำแหน่งสถิติโลกตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบันมาเปรียบเทียบให้ดู

‘ซู ปิ่งเทียน’ ความภาคภูมิใจของจีน และตำนานแห่งเอเชีย(1)_fororder_微信图片_20210909153053

ย้อนกลับมาในฤดูร้อนปี 2016 ในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายรอบชิงชนะเลิศ โอลิมปิกที่นครรีโอเดจาเนโร ยูเซน โบล์ท คว้าเหรียญทองมาครองด้วยเวลา 9.81 วินาที สถิติแห่งเอเชียที่ซู ปิ่งเทียน เจ้าลมกรดจีนสร้างขึ้นในรอบรองชนะเลิศของโอลิมปิกโตเกียวนั้น ช้ากว่าผลงานคว้าแชมป์โอลิมปิกรีโอของยูเซน โบล์ทเพียงแค่ 0.02 วินาทีเท่านั้น จึงไม่แปลกใจที่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกโตเกียวโพสต์ข้อความ” WHAT A FINISH! Su Bingtian runs a 9.83 to win semifinal three in the men’s 100 m” เชียร์เจ้าลมกรดจีนในตอนแรก สุดยอดผลงานของซู ปิ่งเทียนบนลู่โอลิมปิกโตเกียว สมควรให้ชาวจีนทุกคนจดจำและจารึกเอาไว้ตลอดไป

การแข่งขันกรีฑาเป็นกีฬาประเภทหลักและสำคัญเป็นอันดับแรกในงานกีฬาโอลิมปิกมาโดยตลอด แต่สำหรับนักกีฬาผิวเหลืองจากประเทศเอเชีย การคว้าเหรียญทองแดงบนสนามกรีฑาโอลิมปิกนั้น เป็นผลงานที่ทำได้ยากมาก เพราะคนผิวเหลืองเสียเปรียบด้านความแข็งแรงของร่างกายอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับคนผิวดำและผิวขาว การวิ่ง 100 เมตรชายเริ่มกลายเป็นรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่เมื่อ 125 ปีก่อน

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าลู่วิ่ง 100 เมตรเป็นสมรภูมิของคนผิวดำ ในประวัติศาสตร์กีฬาโอลิมปิกเกมส์ เจ้าลมกรดที่วิ่งเร็วที่สุด 5 อันดับแรกล้วนเป็นนักกีฬาผิวดำ ซึ่งแชมป์โอลิมปิกที่ชาวโลกคุ้นเคยที่สุดก็คือยูเซน โบล์ทจากประเทศจาเมกา ผลงาน 9.58 วินาที ซึ่งเป็นสถิติโลกที่นักวิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดสร้างขึ้นมา นับได้ว่าเป็นการวิ่งเร็วที่สุดของมนุษยชาติ

กลางสนามแข่งโอลิมปิก 3 สมัย ยูเซน โบร์ททิ้งผลงาน 9.69 วินาทีที่โอลิมปิกปักกิ่ง 9.63 วินาทีที่โอลิมปิกลอนดอน และ 9.81 วินาทีที่โอลิมปิกรีโอ ทำให้เขากลายเป็นนักกีฬายิ่งใหญ่ที่คว้าเหรียญทอง 3 สมัยของรายการวิ่ง 100 เมตรชายของงานกีฬาโอลิมปิกต่อเนื่องกัน

  • เสียงข่าวประจำวัน (21-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (21-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (21-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (20-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (20-11-2567)

崔沂蒙