วันที่ 7 กันยายน มหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีน ประจำปี 2021 ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 6 วันได้ปิดฉากลงที่กรุงปักกิ่ง ประเด็นของงานครั้งนี้ คือ “ดิจิทัลนำทางสู่อนาคต บริการส่งเสริมการพัฒนา” โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ จัดการเจรจาการค้าและแลกเปลี่ยนระหว่างธุรกิจประเทศต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ทั้งจีนและต่างประเทศค้นหาโอกาสการค้าและร่วมมือกันขจัดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 งานมหกรรมครั้งนี้ยังได้จัดฟอรั่ม นิทรรศการ และการแสดงประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ รูปแบบใหม่ และผลงานใหม่ด้านการค้าภาคบริการ นอกจากนี้ฝ่ายจัดงานยังจัดเส้นทางทัศนศึกษาจำนวน 18 สายเกี่ยวกับการค้าภาคบริการในกรุงปักกิ่งอีกด้วย ซึ่งรวมถึงเมืองวิทยาศาสตร์แห่งอนาคตในตำบลชางผิง นิคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจงกวนชุนอีเห้าในตำบลไห่เตี้ยน ห้างสรรพสินค้าเอสเคพีในตำบลเฉาหยาง และสวนนานาชาติริมแม่น้ำเลี่ยงหม่าเหอ เป็นต้น มหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีนประจำปี 2021 สร้างความหลากหลายตระการตาแก่บรรดาผู้เข้าร่วมงาน
การค้าภาคบริการต่างจากการค้าสินค้า โดยเป็นการค้าขายบริการต่าง ๆ แทนที่สินค้า ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อวัสดุป้องกันโรคและจัดส่งให้เพื่อนที่อยู่โพ้นทะเลก็ต้องใช้บริการขนส่งไปรษณีย์ หากคุณไปชมภาพยนตร์เรื่องนำเข้าจากต่างชาติเรื่องหนึ่งก็ถือเป็นการสัมผัสบริการด้านบันเทิงและวัฒนธรรม หากว่าคุณใช้ซอฟต์แวร์การเรียนการสอนทางไกลเพื่อเรียนภาษาต่างประเทศกับครูต่างชาติก็ต้องใช้บริการด้านการศึกษา และอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้การค้าภาคบริการจึงเกี่ยวพันถึงชีวิตประจำวันของเราอย่างใกล้ชิด
การค้าภาคบริการเป็นส่วนประกอบสำคัญของการค้าระหว่างประเทศและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ องค์การการค้าโลกกำหนดว่า การค้าภาคบริการมี 4 ประการ ได้แก่ หนึ่ง การชำระเงินข้ามแดน เช่น ทนายความจากสหรัฐฯ คนหนึ่งให้บริการคำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ลูกค้าชาวอังกฤษก็ต้องใช้บริการชำระเงินข้ามแดน สอง การบริโภคที่ต่างประเทศ เช่น พลเมืองจีนคนหนึ่งซึ่งพำนักอยู่ต่างประเทศระยะสั้น การบริโภคต่าง ๆ ของพลเมืองจีนคนนี้ในประเทศนั้นคือการบริโภคในต่างประเทศ สาม การดำรงอยู่ทางพาณิชย์ เช่น ร้านอาหารจานด่วนสหรัฐฯ มาเปิดสาขาในจีน หรือ ร้านค้าเจ้าเก่าแก่ไปเปิดร้านสาขาในต่างประเทศ และสี่ การโยกย้ายทรัพยากรบุคคล ซึ่งรวมถึง นักวิชาการ หรือ ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่เดินทางมาทำการสอนในจีน หรือ แรงงานจีนไปรับจ้างยังต่างประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้องค์การการค้าโลกยังแบ่งการค้าภาคบริการเป็น 12 ด้าน ได้แก่ บริการเชิงพาณิชย์ บริการโทรคมนาคม บริการการก่อสร้างและวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง บริการทางการเงิน บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการเดินทาง บริการความบันเทิง วัฒนธรรม และกีฬา บริการการขนส่ง บริการสุขภาพและสังคม บริการการศึกษา บริการการจัดจำหน่าย บริการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และบริการอื่น ๆ ทั้งนี้ องค์การการค้าโลกคาดการณ์ว่า ภายในปี 2040 การค้าภาคบริการจะคิดเป็น 1 ใน 3 ของการค้าโลก
ประเทศไอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีความเหนือกว่าด้านการค้าภาคบริการในสหภาพยุโรปและเป็นประเทศประธานหมุนเวียนของงานมหกรรมการค้าภาคบริการปีนี้ จากสถิติพบว่า ปี 2020 มูลค่าการส่งออกการค้าภาคบริการของไอร์แลนด์มีถึง 262,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในมหกรรมครั้งนี้แอร์แลนด์จัดนิทรรศการแสดงถึงแรงดึงดูดทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว การค้ากับการลงทุน อาหารกับการเกษตร และด้านอุดมศึกษา
ดร.อัน เตอร์วิน (Dr. Ann Derwin) เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำจีน ระบุว่า จีนเป็นประเทศคู่ค้าใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในเอเชียของไอร์แลนด์ ช่วงครึ่งแรกของปี 2021 มูลค่าการค้าระหว่างไอร์แลนด์กับจีนมีถึง 9,000 ล้านยูโร การส่งออกของแอร์แลนด์มายังจีนที่สำคัญประกอบด้วย อุปกรณ์รักษาพยาบาล เวชภัณฑ์ บริการคอมพิวเตอร์ ตลอดจนการเกษตรและอาหารการกิน นอกจากนี้บริการด้านการเงินยังกลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการส่งออกที่มีต่อจีนอีกด้วย
มีรายงานว่ามีสถานทูตและองค์กรต่างประเทศประจำจีนเกือบ 30 รายเข้าร่วมจัดแสดงบริการด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมภายในงานครั้งนี้ด้วย ส่วนสถานทูตไทยประจำประเทศจีนได้จัดการแสดงมวยไทยพร้อมชวนให้ผู้ร่วมงานลิ้มรสผลไม้ไทย
รายงานข่าวระบุว่า ในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 มูลค่าการค้าภาคบริการโลกได้ลดลง 19% เมื่อเทียบกับปี 2019 ในจำนวนนี้เฉพาะการท่องเที่ยวมีมูลค่าลดลง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วโลกจึงรวมตัวกันในงานครั้งนี้เพื่อปรึกษาหารือเรื่องการฟื้นฟูการท่องเที่ยว
นายเฉิน จี๋หนิง นายกเทศมนตรีปักกิ่ง ประธานคณะมนตรีสหพันธ์เมืองท่องเที่ยวแห่งโลก ระบุในงานชุมนุมดังกล่าวว่า พร้อมกับการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 การท่องเที่ยวได้เข้าสู่ช่วงปฏิรูปและสร้างใหม่ เมื่อเผชิญสถานการณ์โควิด-19 การท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ พากันใช้ปฏิบัติการอย่างแข็งขัน โดยประเดิมโครงการฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว ทั้งยังรังสรรค์รูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งรวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G+AI เทคโนโลยี 5G+VR และเทคโนโลยีอัจฉริยะต่าง ๆ จัดการท่องเที่ยวดิจิทัล และการท่องเที่ยวจำลองเสมือนจริง เพื่อสร้างจิตสำนึกการท่องเที่ยวแบบสีเขียวและการท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพแก่บรรดานักท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเล็ก การท่องเที่ยวลักษณะกระจัดกระจาย การท่องเที่ยวอนุรักษ์ระบบนิเวศที่มีความหนาแน่นต่ำ การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพ และการท่องเที่ยวแบบครอบคลุม เป็นต้น ซึ่งจะกลายเป็นทิศทางใหม่ของการพัฒนาการท่องเที่ยวโลก
เทคโนโลยีทันสมัยเป็นที่จับตามองของบรรดาผู้ร่วมมหกรรมครั้งนี้ ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์งานเชื่อมของโครงการไฟฟ้านิวเคลียร์ และหุ่นยนต์ซ่อมบำรุงท่อ เป็นต้น นอกจากนี้หุ่นยนต์ตรวจสุขภาพที่สามารถสนทนากับผู้ใช้บริการนั้นยังน่าสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถตรวจอุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ออกซิเจนในเลือด น้ำตาลในเลือด กรดในปัสสาวะ และคอเลสเตอรอล เป็นต้นแล้ว หากยังสามารถวิเคราะห์ปัสสาวะได้อีกด้วย หุ่นยนต์นี้ยังประกอบด้วยอุปกรณ์รักษาพยาบาลอันก้าวหน้า โดยสามารถช่วยผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และผู้ป่วยต่อมลูกหมากปรับตัวเพื่อควบคุมดัชนีต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้เครื่องนี้ยังสามารถช่วยผู้สูงอายุช่วยชีวิตตนเองในยามฉุกเฉินได้อีกด้วย
ในพิธีเปิดงานมหกรรมครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์ทางไกลโดยเน้นว่า จะส่งเสริมการสนับสนุนการค้าภาคบริการต่อบรรดาประเทศที่มีส่วนร่วมในข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทั้งยังได้ประกาศนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่จีนจะเปิดกว้างในระดับสูง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญต่อการค้าภาคบริการและความมุ่งมั่นของจีนเพื่อเปิดกว้าง
ผู้อำนวยการศูนย์จีน- อาเซียนศึกษา สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ของไทย ระบุว่า สุนทรพจน์ของปธน.สี ทำให้ผู้คนทั้งหลายพบว่า จีนกำลังใช้ความพยายามเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของโลกกำลังเผชิญอยู่
(Tim/Zhou)
