คืนวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศบริคส์ผ่านทางไกลและกล่าวสุนทรพจน์สำคัญ โดยบุคคลต่างประเทศเห็นว่า คำกล่าวของนายสี จิ้นผิงได้อัดฉีดแรงผลักดันใหม่แก่การพัฒนาความร่วมมือกลุ่มบริคส์ในอนาคต กลไกกลุ่มบริคส์เป็นปฏิบัติการสำคัญของลัทธิพหุภาคี มีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก รวมทั้งส่งเสริมการสร้างสรรค์ประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน
Ronnie Lins ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยจีนของประเทศบราซิล กล่าวว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงมีข้อเสนอสำคัญต่อการส่งเสริมความร่วมมือเชิงปฏิบัติของกลุ่มบริคส์ เพิ่มแรงผลักดันใหม่ต่อการพัฒนาประเทศกลุ่มบริคส์ในขั้นต่อไป ตั้งแต่ก่อตั้งกลไกลกลุ่มบริคส์เป็นต้นมา ยืนหยัดแนวคิดเปิดกว้างและเข้าใจกัน ร่วมมือกันเพื่ออำนวยผลประโยชน์แก่กัน เป็นอีกหนึ่งปฏิบัติการที่สำคัญของลัทธิพหุภาคี หวังว่าประเทศกลุ่มบริคส์จะส่งเสริมความร่วมมือต่อไป ส่งเสียงเดียวกันในการพิทักษ์สันติภาพและความมั่นคงของโลก ตลอดจนการรับมือวิกฤตสาธารณสุขและความท้าทายระดับโลกอื่น ๆ
Alexei Maslov ว่าที่ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยฟาร์อีสท์ สังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์ประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ความร่วมมือและความสามัคคีระหว่างกลุ่มประเทศบริคส์ย่อมจะมีบทบาทอย่างมากต่อการส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และประเทศจีนจะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการนี้
ทัง จือหมิ่น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยจีน-อาเซียน สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ของประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มประเทศบริคส์กลายเป็นกำลังสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้บนเวทีโลก การสนับสนุนลัทธิพหุภาคี ร่วมการจัดการบริหารทั่วโลกเป็นข้อเรียกร้องร่วมกันของกลุ่มประเทศบริคส์ ทั้งนี้ กลุ่มประเทศบริคส์ควรยืนหยัดเปิดกว้าง เข้าใจกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม สร้างนวัตกรรมเชิงปฏิบัติ และความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กัน ความร่วมมือกลุ่มบริคส์ย่อมจะยังคงความมั่นคงและพัฒนาไปไกลอย่างต่อเนื่อง
(Tim/Zi)