วันที่ 7 กุมภาพันธ์ สหรัฐอเมริกาได้ตัดสินใจขายงานบริการด้านวิศวกรรมขีปนาวุธและการตรวจเฝ้าระวังภาคสนาม ที่มีมูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับไต้หวัน นับเป็นการขายอาวุธครั้งที่สองให้กับไต้หวันนับตั้งแต่รัฐบาลสหรัฐฯชุดปัจจุบันได้เข้ารับตำแหน่งเป็นต้นมา

​   ด้านวอชิงตันละเมิดคำมั่นสัญญาทางการเมืองที่จะไม่สนับสนุนให้ไต้หวันเป็นเอกราชซ้ำแล้วซ้ำเล่า และใช้ปัญหาไต้หวันเป็นข้ออ้างเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจีนครั้งแล้วครั้งเล่า

การกระทำที่ชั่วร้ายเช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ว่า สหรัฐฯนั่นเองที่เป็นผู้ทำลายสันติภาพและเสถียรภาพที่ใหญ่ที่สุดในเขตช่องแคบไต้หวัน ปัญหาไต้หวันเป็นประเด็นที่สำคัญและไวต่อความรู้สึกที่สุดในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ทางวอชิงตันก็รู้อย่างชัดเจน  หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันเข้ารับตำแหน่งเป็นต้นมา  ได้ให้คำมั่นหลายต่อหลายครั้งว่าจะปฏิบัติตามนโยบายจีนเดียว ไม่สนับสนุนให้ไต้หวันเป็นเอกราช และหวังว่าเขตช่องแคบไต้หวันจะรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพ

แต่ความจริงแล้ว สหรัฐฯไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาดังกล่าวอย่างจริงจังจากการจัดส่งเรือรบข้ามช่องแคบไต้หวัน ไปจนถึงการขายอาวุธให้กับไต้หวัน สหรัฐฯได้เผยให้เห็นถึงความจอมปลอมอีกครั้งที่พูดอย่างหนึ่งและทำอีกอย่างหนึ่ง ตลอดจนความมุ่งหมายที่แท้จริงในการ "ใช้ไต้หวันมาควบคุมจีน" นักวิเคราะห์บางคนชี้ให้เห็นว่า การปฏิบัติของสหรัฐฯที่หมายจะบิดเบือนหลักการจีนเดียว และให้ท้ายอิทธิพลแบ่งแยกดินแดนไต้หวันนั้น เป็นการกระทำที่อันตราย ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ไต้หวันตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากเท่านั้น ยังจะทำให้สหรัฐฯต้องเผชิญหน้ากับการโต้ตอบที่จะรับไม่ไหว

   ประเทศจีนจะต้องรวมเป็นเอกภาพ และจะรวมกันเป็นเอกภาพอย่างแน่นอน  นี่เป็นกระบวนการทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครหรือกำลังใดจะขัดขวางได้ สหรัฐฯต้องปฏิบัติตามหลักจีนเดียวอย่างจริงจัง ถอนแผนขายอาวุธให้ไต้หวันทันที หยุดขายอาวุธให้กับไต้หวันและยกเลิกความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างสหรัฐฯกับไต้หวัน  หยุดใช้อิทธิพลเข้ามาแบ่งแยกทำลายผลประโยชน์ของจีน  มิเช่นนั้น  จีนก็จะใช้มาตรการโต้ตอบกลับ เพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตนอย่างเด็ดขาด 

Yim/LR/Cui