เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ขณะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับสมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีนจำนวนหนึ่งซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการร่วมประชุมสองสภาประจำปีนี้นั้น นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้เน้นย้ำว่าจีนจำต้องให้ความสําคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหาร
สี จิ้นผิงกล่าวว่า ความมั่นคงทางอาหารเป็น "เรื่องใหญ่แห่งประเทศชาติ" ในเรื่องต่างๆมากมายนั้น เรื่องปากท้องต้องมาก่อน หลังผ่านการใช้ความพยายามอย่างยากลําบากจีนได้หล่อเลี้ยงประชากรเกือบหนึ่งในห้าของโลกด้วย 9% ของที่ดินทํากินของโลกและ 6% ของทรัพยากรน้ำจืดของโลก จาก 400 ล้านคนกินไม่อิ่มในอดีตสู่กว่า 1,400 ล้านคนกินดีในทุกวันนี้ ได้ตอบคําถาม "ใครจะเลี้ยงจีนให้อยู่รอด" อย่างทรงพลัง
ผลสําเร็จนี้ใช่ว่าได้มาง่ายๆ จําต้องเสริมสร้างให้มั่นคงและขยายการพัฒนาต่อไป ในเรื่องความมั่นคงทางอาหารนั้นต้องไม่ประมาทอย่างเด็ดขาดแม้แต่น้อย อย่าได้คิดว่าเมื่อเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรม จะทําให้ปัญหาอาหารการกินหมดไป และอย่าได้คาดหวังว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้โดยพึ่งพาตลาดระหว่างประเทศ เราจําต้องเตรียมพร้อมและระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเสมอในการรับมือปัญหาความมั่นคงด้านอาหาร ต้องยืนหยัดที่จะถือการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ประกันกําลังการผลิต นําเข้าอาหารจากต่างประเทศในระดับที่เหมาะสม และค้นหาแรงค้ำจุนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สี จิ้นผิงกล่าวเน้นว่าต้องปรับปรุงโครงสร้างให้เหมาะสม คงไว้ซึ่งความมั่นคงด้านเสบียงอาหารและข้าวโพด เพิ่มการผลิตถั่วเหลืองและพืชน้ำมัน ประกันยอดปริมาณการผลิตอาหารต่อปีอยู่ในระดับสูงกว่า 1.3 ล้านล้านกิโลกรัม และประกันให้ชามข้าวของชาวจีนใส่อาหารจีนเองเป็นหลัก ต้องคุ้มครองความกระตือรือร้นของชาวนาในการปลูกธัญญาหาร พัฒนาการดําเนินธุรกิจในขนาดที่เหมาะสม ให้ชาวนาสามารถทํากําไรและทํากําไรได้มากขึ้น การหยุดยั้งการสิ้นเปลืองอาหารเป็นภารกิจระยะยาว ต้องกวดขันอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์สังคมประหยัดมัธยัสถ์
สี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่าพื้นที่เพาะปลูกเป็นแหล่งที่มาในการผลิตธัญญาหาร เป็นรากฐานแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประชาชาติจีน พื้นที่เพาะปลูกสามารถใช้เพื่อพัฒนาการเพาะปลูกโดยเฉพาะการผลิตอาหารเท่านั้น ต้องปฏิบัติตามระบบปกป้องพื้นที่เพาะปลูกที่เข้มงวดที่สุด พื้นที่เพาะปลูกจำต้องเป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ ต้องสร้างแถบอุตสาหกรรมรักษาความมั่นคงด้านอาหารแห่งชาติ เสริมสร้างการก่อสร้างระบบชลประทานสำหรับไร่นา ดําเนินโครงการอนุรักษ์ที่ดินดํา จัดประเภทและเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดินเค็มด่าง พยายามบรรลุผลสำเร็จในการสร้างพื้นที่เพาะปลูกมาตรฐานสูงให้ถึง 1,000 ล้านโหม่ว (ประมาณ 417 ล้านไร่ )
ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดที่สุดเพื่อให้คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลระดับต่างๆของท้องถิ่นแบกรับความรับผิดชอบในการคุ้มครองพื้นที่เพาะปลูกอย่างรอบด้านและจริงจัง ส่วนกลางต้องลงนาม "คําสั่งทางทหาร" สำหรับการคุ้มครองพื้นที่เพาะปลูกกับท้องที่ต่างๆ ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ลงโทษผู้กระทำผิดโดยไม่มีอายุความ เพื่อประกันให้ได้พื้นที่เพาะปลูก 1,800 ล้านโหม่ว(ประมาณ 750 ล้านไร่) ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแท้จริง
สี จิ้นผิงได้เน้นย้ำว่าทางออกพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาปากท้องคือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความมั่นคงด้านแหล่งเมล็ดพันธุ์เกี่ยวพันถึงความมั่นคงแห่งชาติจำต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะยกระดับอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ของจีนให้สูงขึ้น บรรลุการพึ่งพาตนเองและการสร้างความเข้มแข็งด้วยตนเองทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ บรรลุการบริหารจัดการแหล่งเมล็ดพันธุ์ด้วยตนเอง ต้องผลักดันการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ของจีน
สี จิ้นผิงยังชี้ให้เห็นว่า จําต้องมีแนวคิดโดยรวมในเรื่องอาหาร กุมแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างอาหารของประชาชนโดยพิจารณาจากการตอบสนองความต้องการในชีวิตที่ดีงามของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมไปกับการสร้างหลักประกันด้านอุปทานอาหารนั้น ต้องสร้างหลักประกันในการจัดหาเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์ทางน้ำและอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพด้วย จะขาดเสียมิได้ไม่ว่าชนิดใดก็ตาม
ภายใต้เงื่อนไขบังคับแห่งการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาด้วยดี ต้องขยายจากทรัพยากรที่ดินเพาะปลูกไปยังทรัพยากรที่ดินแห่งชาติทั้งหมด สร้างโครงสร้างการผลิตและโครงสร้างภูมิภาคด้านอุตสาหกรรมการเกษตรที่ทันสมัยที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและขีดความสามารถในการดําเนินการของทรัพยากรและสภาพแวดล้อม เช่น ดำเนินการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยคำนึงถึงความเหมาะสม ไมว่าการปลูกธัญญาอาหาร การเลี้ยงสัตว์ การประมง และการป่าไม้ เป็นต้น
YIM/LU