สื่อต่างชาติรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ องค์การอนามัยโลกเสนอให้ยูเครนทำลายเชื้อโรคเสี่ยงสูงที่เก็บอยู่ในห้องแล็บในประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงไฟสงครามที่ก่อให้เกิดการรั่วไหลของเชื้อไวรัสจนเป็นภัยต่อสุขภาพประชาชน เมื่อเชื่อมโยงกับเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทหารรัสเซียเปิดเผยโครงการชีวภาพทางทหารในยูเครนที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนนั้น ประชาคมโลกพากันตั้งข้อสงสัยว่า สหรัฐฯ ทำเรื่องอะไรที่เปิดเผยไม่ได้กันแน่
ข่าวล่าสุดที่กระทรวงกลาโหมประกาศไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา มีเอกสารแสดงว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรนาโต้ทำการวิจัยอาวุธชีวภาพในยูเครน รัสเซียยังกล่าวด้วยว่า กิจกรรมทางทหารที่สหรัฐฯ ดำเนินงานในยูเครนนั้น เหมือนกับหน่วย 731 ของทหารญี่ปุ่นที่รุกรานจีนในสมัยก่อน หากข่าวนี้เป็นจริง สหรัฐฯ ต้องอธิบายให้ดีว่าเจตนาของโครงการเหล่านี้คืออะไร
สิ่งที่น่าแปลก คือ ตั้งแต่รัสเซียเปิดเผยเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเมื่อไม่นานมานี้ นักวิชาการสหรัฐฯ หลายคนได้ออกแถลงการณ์ที่เป็นความขัดแย้งกัน ความจริงแล้วไม่ว่าสหรัฐฯ ปิดบังอย่างไร การวิจัยและข้อมูลมากมายพิสูจน์ว่า สหรัฐฯ ได้ควบคุมกว่า 300 ห้องแล็บทั่วโลก ซึ่งโครงการชีวภาพทางทหารที่ดำเนินงานในหลายพื้นที่ของอดีตสภาพโซเวียต อาทิ ยูเครน เป็นต้น ในขณะที่สหรัฐฯ ดำเนินกิจกรรมชีวภาพทางทหารในยูเครนนั้น ภายในประเทศยูเครนได้เกิดเหตุการณ์โรคระบาดที่ผิดปกติอยู่บ้าง
เมื่อเผชิญกับข้อสงสัยจากประชาคมโลกที่มีเหตุมีผล สหรัฐฯ ปฏิบัติอย่างขอไปทีต่อไปไม่ได้ ในฐานะประเทศเดียวที่ยังคงมีอาวุธเคมีในโลก 20 ปีมานี้สหรัฐฯ คัดค้านการสร้างระบบตรวจสอบพหุภาคีภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมีแห่งสหประชาชาติเพียงฝ่ายเดียว สาเหตุคืออะไร?
จากการคำนึงถึงสุขภาพของชาวโลก องค์การอนามัยโลกมีความจำเป็นจัดนักวิชาการระหว่างประเทศ ทำการตรวจสอบห้องแล็บของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในยูเครนและพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก สหรัฐฯ ต้องปฏิบัติหน้าที่ทางสากล อธิบายให้ชัดเจนและยอมรับการตรวจสอบพหุภาคี
(Tim/Cui)