เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ขณะที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีและเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ไปเยือนหมู่บ้านสือปาต้ง อำเภอฮวาหยวน จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าเซียงซีถู่เจียและชนเผ่าแม้ว มณฑลหูหนาน ก็ได้เข้าไปเยี่ยมครอบครัวของนางสือ ป๋าซาน ชาวบ้านหมู่บ้านชนเผ่าที่ยากจน ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักข่าวกลับมาเยี่ยมสือป๋าซานอีกครั้ง
นายสี จิ้นผิงมาที่หมู่บ้านสือปาต้ง ตามถนนแคบ ๆ บนภูเขา และครัวเรือนแรกที่ไปเยือนก็คือครอบครัวของสือป๋าซาน สือป๋าซานไม่รู้หนังสือ ไม่เคยดูทีวี และไม่รู้จักนายสี จิ้นผิง เธอใช้ภาษาแม้วถามว่า ฉันเรียกท่านอย่างไรดี นายสี จิ้นผิงจับมือเธอและพูดว่า “เราเป็นผู้รับใช้ประชาชน”
เมื่อรู้ว่าสือป๋าซาน อายุ 64 ปี นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า เธอเป็นพี่สาวคนโต
ในบ้านไม้ที่มืดๆ นายสีจิ้นผิงกับสือปาต้งและสามีของเธอนั่งข้างกองไฟเพื่อคำนวณรายรับและรายจ่าย ถามพวกเขาว่าครอบครัวมีปัญหาอะไร และมีแผนอย่างไร นอกจากนี้ ยังไปตรวจสอบโรงนา เตียง เตาและคอกหมู ส่งเสริมให้ครอบครัวเพิ่มความมั่นใจ และสร้างชีวิตที่ดีขึ้นด้วยความพากเพียรและปัญญาภายใต้การดูแลของพรรคและรัฐบาล
ในวันนั้น ที่ลานหน้าบ้านของชาวบ้านหมู่บ้านสือปาต้ง ต่อหน้าชาวบ้านที่นั่งอยู่รอบตัว นายสี จิ้นผิงได้เสนอนโยบาย "การบรรเทาความยากจนที่แม่นยำ" เป็นครั้งแรก
นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า เขามาที่ภาคตะวันตกมณฑลหูหนานในครั้งนี้ ก็เพื่อเยี่ยมชาวบ้านเป็นหลัก และพูดคุยกับทุกคนเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการขจัดความยากจนมีชีวิตที่ดีขึ้นร่วมกัน เขากล่าวว่า การพัฒนาเป็นวิธีหลักที่ขจัดความยากจน พื้นที่ที่ยากจนควรดำเนินตามสถานการณ์จริง ปรับมาตรการให้เข้ากับสภาพท้องถิ่นว่าจะปลูกอะไร เลี้ยงอะไร เพิ่มรายได้ที่ไหน เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านหาวิธีที่ดีในการขจัดความยากจน
นางสือป๋าซานบอกกับผู้สื่อข่าวว่า 8 ปีต่อมา คำว่า “พี่สาวคนโต” ที่นายสี จิ้นผิงเรียกเธอนั้นอยู่ในหัวใจเธอมาตลอด และเมื่อคิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกอบอุ่นมาก
เธอกล่าวว่า ก่อนจะพบเลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิง เธอไม่เคยออกจากเขตเขาทางตะวันตกของมณฑลหูหนาน ไม่มีทีวีที่บ้าน และก็ไม่รู้ว่าเลขาธิการใหญ่เป็นคนใหญ่คนโตแค่ไหน และก็ไม่เข้าใจว่าประโยค์ที่ว่าคนรับใช้ประชาชนของเลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิงหมายความว่าอย่างไร แต่ขณะนี้รู้แล้วว่าเลขาธิการใหญ่ก็คือคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยประชาชน
สือป๋าซานเล่าอย่างมีความสุขว่า หลังจากเสนอกลยุทธ์การบรรเทาความยากจนอย่างตรงจุด คณะบรรเทาความยากจนประจำหมู่บ้านได้พาชาวบ้านทุกคนไปซ่อมแซมถนน สร้างบ้าน ปลูกผลกีวี และพัฒนาการท่องเที่ยว ทำให้หมู่บ้านมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ทุกปี ชาวบ้านหลายคนที่ออกไปทำงานในต่างถิ่นก็กลับมา บางคนเปิดร้านอาหารและท่องเที่ยวที่บ้าน บางคนเลี้ยงผึ้ง และปลูกกีวี ทำให้หมู่บ้านมีคนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้น และมีส่วนร่วมในอีคอมเมิร์ซ ซึ่งสิ่งของพื้นเมืองประจำหมู่บ้านขายดีมาก
บ้านของสือป๋าซานมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เช่น บ้านได้รับการซ่อมแซมใหม่ และไม่มืดเหมือนเมื่อก่อน พื้นของห้องหลักเปลี่ยนเป็นคอนกรีต และสร้างห้องน้ำสะอาด มีการเชื่อมต่อน้ำประปา และเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย นอกจากนี้ สือป๋าซานยังลงทุนในโครงการต่างๆ ของหมู่บ้านและได้รับเงินปันผลหลายพันหยวนแล้ว ขณะนี้อยากกินเนื้อก็มีเนื้อให้กิน
บ้านของสือป๋าซานยังซื้อทีวีสีขนาดใหญ่ และรายการโปรดของเธอคือรายการข่าว ทันทีที่รูปเลขาธิการใหญ่ปรากฏ เธอก็วางงานลง มองดูท่านให้ดี และฟังสิ่งที่ท่านพูด
ตอนท้ายสือป๋าซานพูดว่า ในอดีตเธอไม่เคยออกจากภูเขามาก่อน แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอได้นั่งเครื่องบินแล้วหลายครั้ง ซ้ำยังได้บินไปกรุงปักกิ่งและไปจัตุรัสเทียนอันเหมิน เธออยากจะบอกกับเลขาธิการใหญ่ว่า เรื่องที่พบกับท่านเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ
Yim/kt/lu