เมื่อวันที่ 19 มกราคม ปี 2015 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีและเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่พักพิงชั่วคราวสำหรับประชาชนที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในหมู่บ้านกานเจียไจ้ ตำบลหลงโถวซาน อำเภอหลู่เตี้ยน มณฑลยูนนาน เขาได้เดินเข้าไปในที่พักเต็นท์ของนายโจว ถี่ฟู่กับนางกาน เจิ่งเฟิน ซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาผู้สูงวัยที่ประสบภัยแผ่นดินไหว เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์กาน เจิ้งเฟินอีกครั้ง

กาน เจิ้งเฟินเล่าย้อนหลังให้ฟังว่า วันที่ท่านเลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงเดินทางมานั้นเป็นช่วงเวลาเที่ยงพอดี ที่ด้านหน้าเต็นท์ของครอบครัวกาน เจิ้งเฟิน ท่านเลขาธิการใหญ่ได้จับมือกาน เจิ้งเฟินและสามีของเธอพร้อมสวัสดีพวกเขา แล้วเดินเข้าไปในเต็นท์ และดึงพวกเขาเข้านั่งด้วยกันบนเตียงที่เรียบง่ายเพื่อสอบถามสภาพต่างๆ ขณะนั้นมือของสามีกาน เจิ้งเฟินยังบาดเจ็บอยู่ ท่านเลขาธิการใหญ่ได้ช่วยพยุงแขนของเขาเบา ๆ ไว้ตลอดเวลาที่พูดคุยกัน   

ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน เงินอุดหนุน ไปจนถึงรายได้ สี จิ้นผิงได้สอบถามอย่างละเอียดยิบ ขณะพูดคุยเขายังได้จับดูผ้านวมและถามว่า “อุ่นเพียงพอมั๊ย?”

เวลากล่าวอำลากับสามีภรรยาสูงวัยคู่นี้ สี จิ้นผิงกำชับว่า "ต้องมีความมั่นใจว่าจะมีชีวิตที่ดีงามในอนาคต"

กาน เจิ้งเฟิงบอกผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวนั้น เธอกำลังเด็ด‘พริกฮวาเจียว’บนภูเขา ได้ไถลตกลงไปในหุบเขาในทันที ก้อนหินและดินทับถมถึงอกของเธอ โชคดีที่เธอได้รับการช่วยเหลือ แต่บ้านพังทลายและไม่เหลืออะไรเลย ภายใต้การดูแลของรัฐบาลเธอได้เข้าพักในเต็นท์ในจุดรองรับผู้ประสบภัยชั่วคราว ทางรัฐบาลได้ส่งผ้าห่มและผ้าปูที่นอนไฟฟ้ามาให้　

วันนั้น ปธน.สี จิ้นผิงได้เดินเข้าไปในเต็นท์ 5 หลังติดต่อกันเพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัย เต็นท์ของกาน เจิ้งเฟินเป็นหลังที่สอง กาน เจิ้งเฟินกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ฉันเคยเห็นท่านเลขาธิการใหญ่ในจอทีวีเท่านั้น ไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะเดินทางไกลขนาดนี้เพื่อมาเยี่ยมเรา เต็นท์มีขนาดเล็กมาก ท่านเลขาธิการใหญ่ก็นั่งระหว่างฉันกับสามี ยังคอยช่วยพยุงแขนของสามีไว้ด้วย "

ในเวลานั้น กาน เจิ้งเฟินมักรู้สึกเศร้าเมื่อนึกถึงเหตุแผ่นดินไหว น้ำหนักตัวของเธอลดลงเกือบ 20 ชั่งหรือ 10 กิโลกรัม สมองเบลอๆตลอดเวลา สิ่งที่ปธน.สี จิ้นผิงสอบถามนั้นเป็นเรื่องความยากลำบากของประชาชนผู้ประสบภัยทั้งนั้น และทุกคำพูดเข้าถึงใจของประชาชนซึ่งทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก ขณะสี จิ้นผิงเดินออกจากเต็นท์ของครอบครัวกาน เจิ้งเฟิงนั้น เธออดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา เธอมีความรู้สึกว่า “เมื่อท่านเลขาธิการใหญ่มาถึง ทุกคนมีที่พึ่งแล้ว!”

ต่อมาประชาชนทุกครัวเรือนที่ประสบภัยแผ่นดินไหวต่างได้รับเงินอุดหนุนอย่างเหมาะสม ทั้งยังมีการสนับสนุนในรูปแบบสินเชื่อด้วย ไม่กี่เดือนให้หลังมีมากกว่า 80 ครัวเรือนได้ย้ายเข้าสู่ตึกสีขาวขนาดเล็กที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ สามีของกาน เจิ้งเฟินได้นำภาพถ่ายที่สี จิ้นผิงไปเยี่ยมพวกเขาแขวนไว้บนกลางผนังห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นรูปถ่ายนี้กาน เจิ้งเฟิงก็จะรู้สึกว่าชีวิตคาดหวังได้มากขึ้น

กาน เจิ้งเฟินกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อก่อนเด็กๆต้องตื่นนอนไปโรงเรียนแต่เช้ามืด เพราะต้องเดินผ่านถนนบนภูเขาเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร เมื่อผู้สูงอายุจะเดินไปรับการรักษาในโรงพยาบาลก็ต้องใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง ปัจจุบันด้านหลังบ้านก็คือโรงเรียนประถม การรับส่งเด็กใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีแฟมิลี่ด็อกเตอร์เดินทางมาวัดความดันโลหิตและออกใบสั่งยาถึงบ้าน นอกจากนั้น ตลาดนัดและจัตุรัสอีเว้นท์ทางวัฒนธรรมก็อยู่ใกล้บ้านเช่นกัน ชีวิตนับวันดีขึ้นจริงๆ ตามที่ท่านเลขาธิการใหญ่กล่าว

กาน เจิ้งเฟินกล่าวทิ้งท้ายว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลูกชายคนโตเคยเลี้ยงแกะ ต่อมาได้เปิดร้านอาหารหม้อไฟ โดยใช้ไก่พื้นบ้านที่เลี้ยงในป่าต้นฮวาเจียในท้องถิ่นของเรา ลูกชายคนที่สองทำธุรกิจบริการรถโดยสารสาธารณะ มีรายได้ที่มั่นคง ครอบครัวเราได้สมาชิกเพิ่มเป็นหลานชายหนึ่งคนและเหลนอีก 7 คน อยู่ด้วยกันสี่ชั่วอายุคน ลูกหลานทุกคนมีความกตัญญูมาก เราขอขอบพระคุณท่านเลขาธิการใหญ่จากใจจริง เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นในชีวิตที่ดีงามในอนาคต "

YIM/LU