รายงานฉบับนี้คาดการณ์ว่า ปีนี้ เศรษฐกิจโลกจะเติบโตขึ้นร้อยละ 4.25 สูงกว่าที่คาดไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาร้อยละ 0.3 และสูงกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด รายงานฉบับนี้ยังคาดการณ์อีกว่า ปีหน้า เศรษฐกิจโลกจะเติบโตขึ้นร้อยละ 4.3
รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภูมิภาคต่าง ๆ
ทั่วโลกมีความแตกต่างกันมาก ประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้วยังคงขาดแคลนพลังขับเคลื่อน เช่น การฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกาจะเร็วกว่าประเทศยุโรปและญี่ปุ่น การฟื้นตัวของประเทศเศรษฐกิจใหม่กำลังคืบหน้าด้วยฝีก้าวที่ยาว โดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจใหม่ในเอเชียยังคงเติบโตขึ้นต่อไป อัตราการเติบโตในปีนี้และปีหน้าจะเป็นร้อยละ 6.3 และร้อยละ 6.5 ตามลำดับ ส่วนเศรษฐกิจจีนจะเติบโตขึ้นร้อยละ 10.0 และร้อยละ 9.9 ในปีนี้และปีหน้า เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตขึ้นร้อยละ 8.8 และร้อยละ 8.4 สองประเทศนี้จะเป็นจุดสำคัญของเศรษฐกิจโลก
รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวมากขึ้น แต่ยังคงมีปัญหาอยู่ วิกฤติหนี้สาธารณะของดูไบและไอซแลนด์ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยให้ประเทศต่าง ๆ ธุรกิจสาขาต่าง ๆ ยังคงเผชิญปัญหาที่สินเชื่อตึงตัว แม้ว่านโยบายการเงินแบบผ่อนปรนได้กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อ การปฏิรูประบบการเงินยังคงขาดแคลนการสนับสนุน อัตราว่างงานของประเทศต่าง ๆ ยังคงสูงอยู่ ปัจจัยเหล่านี้เพิ่มความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก
เกี่ยวกับเรื่องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจโลก รายงานจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศมีข้อเสนอสามประการดังต่อไปนี้ หนึ่ง เน้นความสำคัญด้านนโยบาย เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ใช้นโยบายกระตุ้นการคลังประจำปี 2010 ที่กำหนดไว้อย่างแข็งขัน สอง ต้องดำเนินการปฏิรูประบบการเงินต่อไป โดยเฉพาะประเทศพัฒนาจะเป็นหลักในการรักษาการฟื้นตัว ส่วนประเทศเศรษฐกิจที่เกิดใหม่ควรปรับปรุงแก้ไขระบบการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสาม อัตราว่างงานสูงยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญในอีกหลายปีข้างหน้า จำเป็นต้องออกนโยบายที่ส่งเสริมการมีงานทำ
สื่อมวลชนระบุว่า รายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศฉบับนี้จะเป็นพื้นฐานของการอภิปรายในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มจี 20 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 เมษายนนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องลงความเห็นว่า การรักษาความมั่นคงและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงมีงานท้าทายมากมาย การเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะและความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะร้อนแรงเกินควร ต่างก็ต้องการให้ประเทศเศรษฐกิจปรับปรุบยุทธศาสตร์การคลังระยะกลางตามสภาพของตนอย่างทันกาล เกี่ยวกับความสมดุลด้านความต้องการของทั่วโลก ลัทธิกีดกันทางการค้ายังคงเป็นการคุกคามต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก