หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนโดยตรงเมื่อเดือนกันยายนเป็นต้นมา เกาหลีใต้ บราซิล ไทยและสิงคโปร์กำลังเตรียมใช้มาตรการควบคุมตลาดอย่างเปิดเผยเพื่อแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศตน ทำให้เกิด"สงครามอัตราแลกเปลี่ยน"ขึ้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญจีนกล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ทั่วโลกควรร่วมมือกันเพื่อแก้ข้อขัดแย้งและปัญหาที่สำคัญ "สงครามอัตราแลกเปลี่ยน" ไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นฟูของเศรษฐกิจโลก ซ้ำยังอาจก่อให้เกิดผลที่ร้ายแรงตามมา
เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดเผยว่า อาจเริ่มโครงการใหม่ โดยใช้ดอลล่าร์สหรัฐฯ รับซื้อพันธบัตรประเภทต่างๆ และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เพื่อผลักดันการลดค่าดอลล่าร์สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้สภาพการณ์นี้ อัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อเงินเยน เงินวอน เหรียญสิงคโปร์ บาทไทย ริงกิต และรูเปียห์ต่างแข็งค่าสร้างสถิติใหม่ในช่วงหลายปีมานี้ เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นใช้วิธีการที่ขายเงินเยนและซื้อดอลล่าร์สหรัฐฯในตลาดเงินตราต่างประเทศกรุงโตเกียว นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินเยนโดยตรงในช่วง 6 ปีครึ่งที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลไทยประกาศว่า จะใช้มาตรการเก็บภาษีกำไรและดอกเบี้ยจากการซื้อพันธบัตรต่างประเทศในอัตรา 15 % ล่วงหน้า โดยหวังว่าจะยับยั้งการขึ้นค่าของเงินบาทเร็วเกินไป นอกจากนี้ เกาหลีใต้และบราซิลก็ประกาศว่าอาจจะแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศตนด้วย
ผู้เชี่ยวชาญที่ให้สัมภาษณ์ต่างกล่าวว่า ความผันผวนของเงินตรารอบใหม่นี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลดค่าดอลล่าร์สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ศาสตราจารย์เจ้า ซีจวิน รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการเงินและหลักทรัพย์ของมหาวิทยาลัยประชาชนจีนกล่าวว่า สหรัฐฯ ลดค่าเงินดอลล่าร์ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ในอีกด้านหนึ่ง เป็นการกระทำที่ทำให้ปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนกลายเป็นปัญหาการเมือง เป็นผลให้ประเทศต่างๆ ไม่อาจหลีกเลี่ยงการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนของตน ศาสตราจารย์เจ้า ซีจวินกล่าวอีกว่า
ปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศโลกตะวันตกไม่มั่นคง โดยเฉพาะการลดค่าดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลก และไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นฟูของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบต่อเศรษฐกิจโลก
ผู้เชี่ยวชาญจีนยังกังวลกับการที่ประเทศต่างๆ ใช้มาตรการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศตน โดยเห็นว่า การลดค่าของเงินประเทศตนเพียงเพิ่มกำลังแข่งขันให้กับเศรษฐกิจเป็นชั่วคราว แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ ถ้าประเทศต่างๆ เลียนแบบสหรัฐฯ โดยแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศตน ก็จะก่อให้เกิดข้อพิพาทด้านการค้าในโลก ซึ่งจะทำให้อนาคตการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกมืดมนยิ่งขึ้น
nl/qi/kt