สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการประเด็นวันนี้ โดย ดิฉัน อินทนิล ปลดเปลื้องกับคุณเจิ้ง หยวนผิง สวัสดีค่ะ คุณเจิ้ง
สวัสดีค่ะ คุณอินทนิลและท่านผู้ฟัง
เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ สํานักนายกรัฐมนตรีจีนประกาศรายงานเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิสตรี ซึ่งระบุว่า กระทรวงแรงงานและการประกันสังคมจีนจะวิจัยและพิจารณาเกี่ยวกับการเกษียณของสตรีโดยตามปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์การทํางาน ความเสมอภาคทางเพศ การประกันสังคม นอกจากนี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนและสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้่ ก็มีกรรมการและผู้แทนอภิปรายประเด็นเกี่ยวกับการเกียณของสตรี โดยมีทั้งฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายค้าน และฝ่ายที่อยู่กลางๆ เกี่ยวกับการเลื่อนเวลาเกษียณของสตรี ซึ่งต่างก็มีเหตุผลของตน
การเกษียณของจีนกําหนดเมื่อปี 2501 อายุเกษียณของผู้ชายคือ 60 ปี ส่วนผู้หญิงแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มลูกจ้าง 50 ปี และกลุ่มข้าราชการคือ 55 ปี ขณะนั้นอายุขัยโดยเฉลี่ยที่คาดไว้สําหรับผู้ชายคือ 40 ปี ผู้หญิงคือ 42.3 ปี เมื่อปี 2543 ข้อมูลจากการสํารวจสํามะโนประชากรทั่วประเทศครั้งที่ 5 แสดงให้เห็นว่า อายุขัยโดยเฉลี่ยที่คาดของผู้หญิงคือ 73.33 ปี ผู้ชายคือ 69.63 ปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงที่กําหนดการเกษียณอายุเมื่อปี 2501 แต่จนถึงขณะนี้ จีนยังไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขเรื่องอายุเกษียณเลย ฉะนั้น ประเด็นที่ว่าควรเลื่อนเวลาเกษียณสําหรับสตรีหรือไม่ จึงกลายเป็นประเด็นร้อนที่ฝ่ายต่างๆ สนใจ
มาดูกันว่าการเกษียณของประเทศต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง ที่ไทย สถาบันประชากรศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สํารวจพบว่า อัตราเกิดของไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ อัตราการเกิดของไทยมีเพียง 13.9% อัตราการตาย 7% อายุขัยที่คาดเพิ่มขึ้นเป็น 72 ปี ไทยประกาศอย่างชัดเจนว่า จะปรับปรุงโครงสร้างประชากรภายในประเทศ เพิ่มอัตราการเกิด นอกจากนี้ ไทยกําลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเลื่อนอายุเกษียณ ก็คือเลื่อนจาก 60 ปีในปัจจุบันเป็น 65 ปี รัฐธรรมนูญกําหนดไว้ว่า ข้าราชการของหน่วยงานยุติธรรมจะเลื่อนอายุเกษียณไปได้ถึง 70 ปี เพื่อรับมือกับสภาพที่เจ้าหน้าที่ไม่พอ
สําหรับที่สิงคโปร์ เมื่อปี 2536 สิงคโปร์กําหนดอายุเกษียณไว้ที่ 60 ปี ต่อมาในปี 2542 กําหนดอายุเกษียณไว้ที่ 62 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เดินทางไปเยือนฟินแลนด์แล้วเสนอว่า รัฐบาลสิงคโปร์ควรพิจารณาเลื่อนอายุเกษียณเป็น 68 ปี เพราะว่าอายุเกษียณของฟินแลนด์คือ 68 ปี แต่อายุขัยโดยเฉลี่ยของชาวฟินแลนด์ยังสั้นกว่าชาวสิงคโปร์ สิงคโปร์จึงควรพิจารณาเลื่อนอายุเกษียณ
สหรัฐอเมริกาไม่ได้กําหนดอายุเกษียณไว้ในกฎหมาย แต่กําหนดอายุที่เริ่มรับเงินบําเหน็จก้อนแรกคือ 62 ปี อายุที่จะได้รับเงินบําเหน็จทั้งหมดคือ 65 ปี ฉะนั้น คนจํานวนมากจึงนิยมเกษียณตอนอายุ 62 ปี แต่หากอยากมีชีวิตที่สบายกว่า ก็มักจะเลื่อนเวลาเกษียณ
ที่ญี่ปุ่น ผู้ที่อายุมากกว่า 20 ปีและตํ่ากว่า 60 ปีต่างก็เข้าร่วมกองทุนบําเหน็จบํานาญ ผู้ทําธุรกิจส่วนตัวและคนว่างงานจ่ายเดือนละ 13,300 เยน ส่วนพนักงานบริษัทและข้าราชการจ่ายเดือนละ 17.5% ของเงินเดือน ซึ่งนายจ้างกับลูกจ้างจ่ายคนละครึ่ง
ที่ฝรั่งเศส ผู้เกษียณที่มีอายุ 60 ปีและทํางานมากกว่า 40 ปีแต่ละเดือนจะได้รับเงินบํานาญเป็น 70% ของเงินเดือน ซึ่งไม่ใช่เงินเดือนสูงสุดก่อนเกษียณ แต่เป็นเงินเดือนตั้งแต่ปีที่ 21-25
ที่เยอรมนี ผู้ชายอายุ 65 ปีผู้หญิงอายุ 60 ปีที่ได้ทํางานมา 45 ปีจะได้รับเงินบํานาญทั้งหมด ตามที่กําหนด ชาวเยอรมันที่ทํางานอยู่แต่ละเดือนต้องจ่าย 10% ของเงินเดือนให้กับประเทศ ขณะเดียวกัน นายจ้างก็ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเกษียณอายุ 10% ของเงินเดือน
บางคนเห็นว่า อายุเกษียณของผู้ชายกับผู้หญิงที่ไม่เท่ากันเป็นการปฏิบัติอย่างไม่เสมอภาค แต่ความจริงแล้ว อายุเกษียณของผู้ชายกับผู้หญิงที่จีนกําหนดไว้ไม่เทากันนั้นเป็นข้อกําหนดเพื่อคุ้มครองสตรี เพราะเหตุว่า หนึ่ง สุขภาพของผู้หญิงอ่อนแอกว่าผู้ชาย ให้ผู้หญิงปลดเกษียณก่อนเพื่อให้พักผ่อนและใช้บริการประกันสังคมได้ดียิ่งขึ้น เป็นการคุ้มครองสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของสตรี สอง เมื่อมองจากบทบาทในสังคม ผู้หญิงต้องตั้งครรภ์คลอดลูกและเลี้ยงลูก รับผิดชอบงานบ้านในครอบครัว นอกจากรัฐบาลจีนจะให้สิทธิลาคลอดแล้ว ยังกําหนดอายุเกษียณที่ค่อนข้างตํ่า เพื่อดูแลและคุ้มครองสตรี
"คัมภีร์การแพทย์จีนโบราณ" ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีการแพทย์แผนจีนฉบับแรกระบุว่า กระบวนการเติบโตของผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่อายุเกษียณของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คัมภีร์ระบุว่า ผู้หญิงมีสุขภาพแข็งแรงที่สุดในวัย 28 ปี เมื่ออายุ 35 ปีแล้ว สภาพร่างกายเริ่มอ่อนลง เมื่ออายุ 49 เลือดลมไม่สะดวก ส่วนผู้ชายมีสุขภาพแข็งแรงที่สุดในวัย 24 ปี เมื่อายุ 32 ปี กล้ามเนื้อสมบูรณ์กระดูกแข็งแรง เมื่ออายุ 48 ปี สภาพร่างการเริ่มอ่อนลง เมื่ออายุ 56 ร่างกายเริ่มไม่ค่อยว่องไว เมื่อพิจารณาจากแพทย์แผนจีน ผู้หญิงอายุ 50 ปี ผู้ชายอายุ 55 ปี ร่างกายเริ่มอ่อนลง ฉะนั้น อายุเกษียณของผู้ชายกับผู้หญิงจีนจึงสอดคล้องกับสภาพร่างกายตามหลักการของแพทย์แผนจีน
การเลื่อนเวลาเกษียณเป็นผลดีหรือผลเสีย เป็นประเด็นร้อนที่ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการสนใจ สิ่งที่สําคัญก็คือ ควรจะเลื่อนอายุเกษียณหรือไม่ เรื่องนี้จะเกี่ยวพันถึงคนทํางานทุกคนและครอบครัว ตลอดจนผู้หางานทํา ชนชั้นต่างๆ ตําแหน่งต่างๆ มีความคิดเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับประเด็นนี้ มีทั้งฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายค้านและฝ่ายที่เป็นกลางๆ
ฝ่ายสนับสนุนเห็นว่า อายุเกษียณของจีนตํ่ากว่าอายุเกษียณของประเทศอื่นๆ อย่างเช่นสหรัฐอเมริกา อิตาลี ฝรั่งเศส และแคนาดา ที่อายุเกษียณคือ 65 ปี ล้วนมากกว่าจีน
อันที่จริง สําหรับผู้ทํางานวิชาการโดยเฉพาะ ยิ่งแก่ยิ่งดี อย่างเช่นแพทย์ ผู้ป่วยไปโรงพยาบาลต่างก็หวังหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้อายุมักจะอยู่ระหว่าง 50-60 ปี น่าเสียดาย เมื่อแพทย์ที่มีประสบการณ์ดีๆ ก็ใกล้เกษียณ
การเลื่อนเวลาเกษียณเป็นเรื่องดีที่จะรับมือกับประชากรที่มีอายุยืนยาวมากยิ่งขึ้น สถิติแสดงให้เห็นว่า การขาดดุลของกองทุนบําเหน็จบํานาญของจีนในปี 2543 จํานวน 36,000 ล้านหยวน หลังปี 2548 กองทุนเงินบําเหน็จบํานาญของจีนขาดดุล 800,000 ล้านหยวน ปี 2553 ขาดดุล 1.3 ล้านหยวน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า หากเลื่อนอายุเกษียณไปหนึ่งปี คนที่ควรจะได้รับเงินบําเหน็จบํานาญไม่เพียงแต่ไม่ได้รับเงินบําเหน็จบํานาญเท่านั้น แต่ยังต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนบําเหน็จบํานาญต่อไป เมื่อพิจารณาจากทั่วประเทศ การเลื่อนอายุเกษียณจะทําให้เงินกองทุนบําเหน็จบํานาญของจีนเพิ่มขึ้นปีละ 4,000 ล้านหยวน ลดรายจ่าย 16,000 ล้านหยวน
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเลื่อนเวลาเกษียณ ไม่ได้หมายถึงว่าเงินบําเหน็จบํานาญจะน้อยลง เพราะขณะทํางานอยู่เมื่อจ่ายเงินเข้ากองทุนบําเหน็จบํานาญมากยิ่งขึ้น ตัวเลขพื้นฐานของเงินบําเหน็จบํานาญก็ยิ่งสูงขึ้น เมื่อเลื่อนเวลาเกษียณ เงินบําเหน็จบํานาญก็ไม่ได้น้อยกว่าการไม่เลื่อนเวลาเกษียณ
นี่เป็นความคิดเห็นที่สนับสนุนการเลื่อนเวลาเกษียณ แต่ฝ่ายคัดค้านก็มีไม่น้อย เสี่ยวหลิวเป็นนักศึกษาที่พึ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เขาอยากรับราชการ แต่คนที่มีอายุมากไม่เกษียณ ก็ไม่มีตําแหน่งงานว่าง คนจบใหม่อยากเข้าไปทํางานก็ไม่ได้
คนที่มีความคิดเห็นอย่างเสี่ยวหลิวมีไม่น้อย ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้เรียนจบที่กําลังหางานทํา ขณะนี้ไม่ว่าหน่วยงานรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจก็ตาม ภายใต้สภาพที่พนักงานที่มีอยู่นั้นสามารถทํางานได้ดี หากไม่มีคนเกษียณ ก็ยากที่จะรับคนใหม่เข้าไปทํางาน
นอกจากนี้ เจ้าของบริษัทเอกชนก็เป็นกลุ่มที่คัดค้านการเลื่อนเวลาเกษียณ เจ้าของบริษัทผู้หนึ่งให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เงินเดือนของพนักงานเก่าคิดเป็น 2 เท่าของพนักงานใหม่ พนักงานเก่าเกษียณตามเวลากําหนดสามารถลดค่าใช้จ่ายของบริษัท และสามารถประหยัดค่าประกันสังคมสําหรับพนักงานเก่าซึ่งมีจํานวนสูงกว่าพนักงานใหม่ด้วย
ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนกับฝ่ายค้านต่างยืนหยัดเหตุผลของตน ฝ่ายยืดหยุ่นตามความสมัครใจของผู้เกษียณก็เสนอว่าพนักงานทุกคนต่างก็มีสิทธิในการตัดสินใจว่าจะเกษียณตามเวลาที่กําหนด จะเลื่อนเวลาเกษียณออกไป หรือจะเกษียณก่อนกําหนด ก็ได้เป็นวิธีการที่ยืดหยุ่นตามความสมัครใจ และเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา โดยจีนเริ่มนําร่องแผนดังกล่าวนี้ที่บางพื้นที่
วันที่ 1 ตุลาคมปี 2553 นครเซี่ยงไฮ้ประกาศ"การนําร่องเกี่ยวกับการเลื่อนเวลาขอรับเงินบําเหน็จบํานาญของพนักงาน" ก็ระบุว่า คนที่ครบอายุเกษียณแล้วแต่ต้องการทํางานต่อ สามารถเลื่อนเวลายื่นขอรับเงินบําเหน็จบํานาญ ผู้ชายสามารถเลื่อนอายุเกษียณไปได้ถึง 65 ปี ผู้หญิงถึง 60 ปี
แต่การนําร่องดังกล่าวนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมาใหม่ คือแม้ว่าบุคลากรที่หน่วยงานต้องการให้ทํางานต่อเพราะเห็นว่าจะสามารถสร้างประโยชน์แก่หน่วยงานได้มากกลับลาออก แต่คนกลุ่มหนึ่งที่หน่วยงานไม่ต้องการกลับไม่ยอมเกษียณ เป็นเหตุให้ไม่สามารถรับคนใหม่เข้ามาทํางานได้
อย่างไรก็ตาม เสียงสนับสนุน คัดค้าน หรือฝ่ายที่เสนอให้มีการยืดหยุ่นตามความสมัครใจ ล้วนต้องเผชิญกับปัญหานี้ด้วยตนเอง จึงจะเป็นสิ่งยอมรับได้
(In/zheng)