วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา การชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขยายขอบเขตจากกรุงจาการ์ตาไปสู่อีกกว่า 20 เมืองในประเทศอินโดนีเซีย มีประชาชนประมาณ 4 หมื่นคนออกมาชุมนุมตามท้องถนน แสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาล และเรียกร้องให้รัฐสภาปฏิเสธญัตติของรัฐบาลเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไฟฟ้า
นอกจากกรุงจาการ์ตาแล้ว เมืองอื่นๆ ที่มีการชุมนุมประท้วงส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดชวาตะวันออก จังหวัดชวาตะวันตก จังหวัดสุลาเวสีใต้และจังหวัดสุมาตราเหนือ
ตามแผนอุดหนุนผู้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน ราคาน้ำมันเบนซินตกลิตรละประมาณ 4500 รูเปียห์(ราว 0.5 ดอลลาร์สหรัฐ)เพื่อลดการขาดดุลบัญชีงบประมาณ รัฐบาลอินโดนีเซียวางแผนยกเลิกแผนอุดหนุนผู้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งหมายความว่าราคาน้ำมันเบนซินจะขึ้นถึง 6000 รูเปียห์(ราว 0.66 ดอลลาร์สหรัฐ)ต่อลิตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 33% ส่วนรัฐบาลสามารถประหยัดรายจ่ายด้่านน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 380000 ล้านรูเปียห์(ราว 4200ล้านดอลลาร์สหรัฐ)ต่อปี
เพื่อรับมือกับการชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักเรียนนักศึกษา สหพันธ์แรงงานและสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน รัฐบาลอินโดนีเซียจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตามสถานที่ชุมนุมต่างๆ กว่า 22000 นาย โดยเน้นควบคุมสถานการณ์ในบริเวณทำเนียบประธานาธิบดี อาคารรัฐสภา สถานีวิทยุ ถนนสายหลักและอาคารสำคัญอื่นๆ
เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา สมาชิกแนวร่วมต่อต้านเพื่อประชาชนอินโดนีเซีย ซึ่งประกอบด้วยกรรมกร เกษตรกรและชาวประมงจำนวนนับพันคน มาชุมนุมกันที่บริเวณอาคารรัฐสภา และพยายามทำลายรั้วเหล็กกั้นเพื่อบุกเข้าอาคารรัฐสภา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้น และสองฝ่ายเกิดการปะทะกัน