โลกยุคเทคโนโลยีสารสนเทศหรือโลกยุคไอที (IT) ในปัจจุบันประเทศจีนได้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒานาเป็นประเทศมหาอำนาจด้านนวัตกรรม จนถึงขณะนี้ ทางการได้ลงทุนมหาศาลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และจีนยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์โทรคมนาคมอัจฉริยะมากที่สุดในโลก

ปัจจุบัน จีนกำลังฉลองความสำเร็จประการแรก คือผู้ก่อร่างสร้างตัวด้วยวิชาชีพไอทีจำนวนหลายแสนคนถูกดึงเข้ามาประจำในกรุงปักกิ่ง เพราะเมืองหลวงของจีนกำลังสร้างโลกไอทีแห่งหนึ่งที่เหมือนกับ Silicon Valley ของสหรัฐอเมริกา

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ด้านไอทีของประเทศตะวันตกถูกลอกเลียนแบบและผลิตในจีนเสมอ บริษัทตะวันตกที่ขอเข้าตลาดจีนนั้น มักจะถูกทางการจีนขอร้องให้ถ่ายโอนเทคโนโลยีส่วนหนึ่งให้ แต่ทั้งนี้ก็ยังนับว่าช้ามากสำหรับประเทศจีนที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีความต้องการในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเร่งด่วน

บริษัทไอทีของจีนยังคงอ่อนแอในตลาดโลก และเกือบไม่มีแบรนด์นิวไฮเทคที่ขึ้นชื่อระดับโลก ดังนั้น ทางการจีนจึงปรับยุทธศาสตร์การพัฒนา ภายใต้หัวข้อ "การประดิษฐ์คิดค้นด้วยตนเอง" เพื่อส่งเสริมประชาชนประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ และวางแผนจะจัดสรรงบประมาณ 402,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าสหรัฐอเมริกาด้วย

นี่เป็นอภิมหาโปรเจ็กที่จะประสบความสำเร็จภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่มีการวางแผนหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ในขั้นแรกได้ทดลองในกรุงปักกิ่งด้วยความสำเร็จ ซึ่งก็คือเขตจงกวานชุน ที่มีมีบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ที่ขึ้นชื่อระดับโลกมาชุมนุมกันอยู่ที่นี่ รวมถึงบริษัทไอทีขนาดใหญ่ของจีน ผู้ก่อร่างสร้างตัวด้านไอทีจำนวนหลายแสนคนมาหาโอกาสการพัฒนาในเขตนี้ คาดว่า จนถึงปี 2015 ยอดการผลิตของเขตจงกวานชุนจะสูงถึง 1 ล้านล้านหยวน

ปัจจุับัน บริษัทไอทีของจีนเองกำลังพยายามยึดตลาดของตนคืน บริษัทเหล่านี้มิเพียงแต่ทุ่มกำลังในการเบิกบุกผลิตภัณฑ์นิวไฮเทค เช่นสมาร์ททีวี โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ เป็นต้น ยังมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตชิปที่ต้องใช้เทคโนโลยีพิเศษที่มีระดับสูง

ส่วนผลิตภัณฑ์บริษัทไอทีของจีนก็ได้ครองสัดส่วนในตลาดไอทีมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ยอดการจำหน่ายทั่วโลกของกลุ่มบริษัทเลอโนโว (Lenovo) ติดอันดับ 2 ในไตรมาสที่ 3 และที่ 4 แซงบริษัทคอมพิวเตอร์เดลล์ (Dell) ของสหรัฐฯ และบริษัทโทชิบา (Toshiba) ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในตลาดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ยอดการจำหน่ายของ เลอโนโวก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนในตลาดสมาร์ทโฟน (smart phone) ที่เกือบถูกแอปเปิล (apple) ของสหรัฐฯ และบริษัทซัมซุง (samsung) ของเกาหลีใต้ครองไปหมดนั้น การพัฒนาของบริษัทจีนก็เป็นที่น่าจับตามอง ในไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดการจำหน่ายสมาร์ทโฟนของบริษัทหวาเหวยทั่วโลกติดอันดับที่ 5 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทจีนติด 5 อันดับแรกด้านนี้ ส่วนบริษัทจีนอีกรายหนึ่งคือ จงซิง (ZTE) ติดอันดับที่ 7

ในด้านสมาร์ททีวี (smart TV) บริษัทซัมซุงและ LG ของเกาหลีใต้ครองอันดับ 1 และ 2 ของยอดจำหน่ายทั่วโลกมาโดยตลอด ส่วนบริษัทโซนี (Sony) ของญี่ปุ่นติดอันดับที่ 3 วันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท เลอโนโวได้เริ่มจำหน่ายสมาร์ททีวี 4 ชนิดที่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตได้ในตลาดท้องถิ่น นับเป็นบริษัทจีนรายแรกที่ผลิตสมาร์ททีวี และมีแผนที่จะส่งออกสมาร์ททีวีไปยังสหรัฐฯ ในครึ่งหลังปีนี้ ส่วนบริษัทไอทีอื่นๆของจีนเช่น ไหเื้อ่อร์ (haier) ก็พากันวิจัยและผลิตสมาร์ททีวีเช่นกัน

(In/Lin)