วันที่ 2 กันยายนนี้ งานแสดงสินค้าจีน-เอเชียยุโรป ครั้งที่ 2 เปิดฉากที่เมืองอูหลู่มู่ฉี เขตปกครองตนเองชนเผ่าอุยกูร์ซินเจียงทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ต่างแสดงความคิดเห็นว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ในทวีปเอชียและยุโรปจะต้องร่วมมือกันต่อไป รวมถึงร่วมรับมือกับการท้าทายต่างๆ เพื่อสร้างความร่วมมือกันให้มากขึ้น และได้รับประโยชน์ร่วมกัน
งานแสดงสินค้าครั้งนี้มีหัวข้อหลักคือ " การพัฒนาอย่างสมานฉันท์ ร่วมมือเพื่อรับประโยชน์ร่วมกัน " โดยมีวัตถุประสงค์จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ในเอเชียและยุโรป ทั้งด้านเศรษฐกิจและการค้า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การคมนาคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว วันเดียวกัน ผู้นำประเทศ และผู้นำองค์การระหว่างประเทศประมาณ 90 คน อีกทั้งแขกผู้มีเกียรติจากประเทศต่างๆ จากเอเชียและยุโรปรวมกว่า 1,000 คนได้เข้าร่วมพิธีเปิดงานครั้งนี้
นายเฉิน เติ๋อหมิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวในพิธีเปิดงานว่า ขณะนี้ วิกฤตการเงินโลกยังคงบานปลายต่อไป แรงกดดันที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศต่างๆทั่วโลกตกต่ำจึงมีมากขึ้น งานแสดงสินค้าาจีน-เอเชียยุโรป ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นภายใต้สภาพเช่นนี้ จึงมีบทบาทเด่นชัดมากสำหรับการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าในระดับลึกยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ และส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เขายังกล่าวว่า การจัดงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียยุโรปนั้นเป็นนโยบายสำคัญประการหนึ่งของรัฐบาลจีนในการเปิดภาคตะวันตกของจีนสู่ภายนอก จึงมีความหมายอันลึกซึ้งและยาวไกลต่อการกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างจีนกับเอเชียกลาง เอเชียตะวันตก เอเชีนใต้ และยุโรป อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคให้มีการประสานกันด้วยดีมากขึ้น
วันเดียวกัน นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวคำปราศรัยต่อผู้เข้าร่วมพิธีเปิดงานครั้งนี้ในหัวข้อ "สร้างความรุ่งโรจน์ให้กับเส้นทางสายไหมอีกครั้ง " ว่า ปัจจุบัน การมีหลายขั้วของโลก และเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์กำลังพัฒนาในระดับลึก ประเทศต่างๆ ในเอเชียและยุโรปมีความเชื่อถือกันทางการเมืองมากขึ้น ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันต่างพัฒนาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาคเป็นไปอย่างคึกคัก ประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศพัฒนาเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นพลังสำคัญบนเวทีระหว่างประเทศ ทำให้สถานภาพทางเศรษฐกิจของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง ส่วนเอเชียกลาง เอเชียตะวันตก เอเชียใต้ และยุโรปตะวันออกกลางก็ปรากฎให้เห็นว่า มีพลัง และศักยภาพการพัฒนาสูง
นายเวิน เจียเป่ายังกล่าวว่า หลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าได้เดินทางไปเยือนหลายประเทศในเอเชียและยุโรป
โดยเห็นกับตาว่า ประเทศเหล่านี้เจริญพัฒนาขึ้นทุกวัน ศตวรรษที่ 21 เป็นศตวรรษที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง การพัฒนา และการปรับปรุงอย่างมาก และย่อมเป็นศตวรรษที่ประเทศในเอเชียและยุโรปจะเกิดการพัฒนาและความร่วมมือที่น่าจับตามอง
(YING/cai)