เมื่อเร็วๆ นี้ งานแสดงสินค้านำเข้าส่งออกกว่างโจว ซึ่งได้สมญานามว่าบารอมิเตอร์ของการค้าต่างประเทศ ได้สิ้นสุดงานในช่วงแรกแล้ว และตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมนี้ จะเปิดงานแสดงสินค้าช่วงที่ 2 โดยจะทำการจัดแสดงเครื่องเคลือบ การจัดสวนและของเล่นเป็นหลัก ตามข้อมูลที่เปิดเผยระบุว่า จำนวนผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้างวดแรกเมื่อเทียบกับปีที่แล้วได้ลดลงอย่างมาก ส่วนยอดค้าขายของตลาดยุโรปลดลงร้อยละ 23.1 เมื่อเผชิญกับสถานการณ์การส่งออกที่น่ากังวลเช่นนี้ บริษัทการค้าต่างประเทศจำนวนมากต่างพากันหาหนทางปรับโครงสร้างและยกระดับ ดังนั้น ในงานแสดงสินค้ากว่างโจวครั้งนี้ จะเห็นว่า ยอดการค้าของผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ และแบรนด์เนมกลับเพิ่มขึ้น
นางพัน หลิงหุ้ย ผู้รับผิดชอบของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์จิ่งหลงที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้ากว่างโจวครั้งนี้ กล่าวว่า
"เมื่อก่อน การส่งออกของเรามากกว่าร้อยละ 90 ปีนี้ เราได้ปรับปรุงยุทธิศาสตร์ตลาด โดยจะปรับรูปแบบการตลาดที่เน้นต่างประเทศหันมาสู่ภายในประเทศ ปรับปรุงสัดส่วนของการจำหน่ายภายในประเทศและนอกประเทศ โดยให้การจำหน่ายภายในเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ทั้งนี้สามารถช่วยลดผลกระทบจากการขึ้นค่าเงินหยวนและบรรยากาศทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศให้น้อยลง"
กล่าวโดยทั่วไปแล้ว งานแสดงสินค้ากว่างโจวฤดูใบไม้ร่วงเป็นการเจรจาเรื่องการค้าในครึ่งแรกปีหน้า ดังนั้น สภาพการเข้าร่วมของผู้สั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศจึงมีความหมายสำคัญต่อการคาดการณ์ทิศทางของตลาดทั่วโลก และสถานการณ์การค้าส่งออกของจีน
นายจาง ชิ่งฝู หัวหน้าฝ่ายตลาดภูมิภาคอัฟริกากลางและตะวันออกของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ยอดการจำหน่ายในตลาดต่างประเทศของบริษัทฯ ในช่วง 8 เดือนแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว ทั้งนี้เป็นผลที่ได้มาจากการที่บริษัทบุกเบิกเครื่องหมายการค้าที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง เขากล่าวเน้นในขณะเดียวกันว่า การปรับโครงสร้างและยกระดับก็ไม่ควรลืมธุรกิจหลักของตน ต้องยึดมั่นว่า เป็นบริษัทที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน ต่อไปในอนาคต บริษัทฯ จะใช้เวทีของงานแสดงสินค้ากว่างโจว สร้างแบรนด์เนม "เมดอินไชน่า" เพิ่มขึ้น