ผู้คนทั้งหลายเห็นว่า ถ้อยแถลงของนายสี จิ้นผิงในมณฑลกว่างตง ซึ่งเป็นเขตนำร่องการปฏิรูปและเปิดประเทศนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและปณิธานอันแน่วแน่ในการเดินหน้าปฏิรูปและเปิดประเทศของผู้นำจีนรุ่นใหม่ ในขณะที่การปฏิรูปเข้าสู่ช่วงสำคัญและระดับลึกนั้น ควรมีความกล้าคิดกล้าทำ แสวงหาและบุกเบิกอย่างกล้าหาญ เดินหน้าภารกิจปฏิรูป เปิดประเทศ และสร้างความทันสมัยให้ขึ้นสู่ระดับใหม่
ศ.หลิว จิ้งเป่ย จากสถาบันพนักงานรัฐผู่ตง และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนระบุว่า "หากไม่มีการปฏิรูปและเปิดประเทศ เมืองเซินเจิ้น เขตผู่ตงของนครเซี่ยงไฮ้ เขตปินไห่ของนครเทียนสิน ซึ่งอยู่แนวหน้าแห่งการการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนในเวลานี้ ก็อาจจะเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆ แปลงนา และผืนดินเค็มด่างเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงของพื้นที่ดังกล่าวในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือของทั้งแผ่นดินและชะตากรรมของประเทศชาติ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การเลือกดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นเรื่องที่ถูกต้อง"
นายฉือ ฝูหลิน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการปฏิรูปและการพัฒนา (ไหหลำ) ของจีนระบุว่า การปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนถาวรที่ทำให้จีนพัฒนา ผลที่ได้รับในช่วงที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากการปฏิรูปและเปิดประเทศ ส่วนการพัฒนาจากนี้ไปก็ยังคงต้องอาศัยหนทางการปฏิรูปและเปิดประเทศที่มั่นคงเช่นเดิม
นายจัง เป่าทง รองประธานคณะกรรมการทางวิชาการ สภาวิทยาศาสตร์ทางสังคมมณฑลส่านซีระบุว่า ขณะนี้จีนได้พัฒนาเป็นประเทศใหญ่อันดับที่ 2 ด้านเศรษฐกิจของโลก และกำลังเข้าสู่ช่วงโอกาสทางยุทธศาสตร์แห่งการพัฒนา การจะสร้างสังคมพอกินพอใช้ทุกด้าน ควรใช้การปลดปล่อยความคิดมาเดินหน้าปฏิรูปและเปิดประเทศ ให้การปฏิรูปเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนา
ส่วนนายหนัน ฉุนฮุย ประธานกรรมการกลุ่มเจิ้งไท่ มณฑลเจ้อเจียงระบุว่า คำปราศรัยของนายสี จิ้นผิงแสดงให้เห็นถึงปณิธานอันแน่วแน่ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ในการเดินหน้าปฏิรูปและเร่งพัฒนาให้เร็วขึ้น และเป็นแนวทางสำคัญต่อการผนึกสติปัญญาและกำลังของปวงประชาชนเข้าด้วยกัน เพื่อการสร้างสังคมที่พอกินพอใช้ทุกด้าน
(TON/LING)