เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกเกมส์ปี 2020 ในที่ประชุมเต็มคณะครั้งที่ 125 ของคณะกรรมการโอลิมปิกเกมส์สากลที่จัดขึ้นในกรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างมากต่อการแข่งขันได้รับสิทธิ์จัดงานโอลิมปิก ทั้งนี้รัฐบาลของนายชินโซ อาเบะถือการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด โดยหวังว่า ในระยะ 7 ปีต่อจากการได้รับสิทธิ์จัดโอลิมปิกเกมส์แล้ว วิสาหกิจและประชาชนญี่ปุ่นจะได้รับการส่งเสริมด้านการลงทุนและการบริโภค ซึ่งจะปรับปรุงสภาพซบเซาทางเศรษฐกิจในกว่า 20 ปีที่ผ่านมา

นายชินโซ อาเบะกล่าวต่อผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า เชื่อว่าการจัดโอลิมปิกเกมส์สามารถส่งเสริมให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขจัดสภาพการซบเซาที่ติดต่อกันมาเป็นระยะ 15 ปี และเข้าสู่ระยะการเติบโตใหม่ นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า หวังว่าโอลิมปิกเกมส์โตเกียวจะผลักดันการลงทุนสาธารณะและการลงทุนภาคเอกชน รัฐบาลญี่ปุ่นจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้การสนับสนุนทางการคลัง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่

รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่า การสร้างหอกีฬาใหม่ และการขยายหอกีฬาเก่าเพื่องานโอลิมปิกเกมส์สามารถนำมาซึ่งผลประโยชน์เป็นมูลค่า 3 ล้านล้านเยน ส่วนรัฐบาลและองค์กรวิจัยภาคเอกชนญี่ปุ่นต่างเห็นว่า การจัดโอลิมปิกเกมส์โตเกียวสามารถสร้างผลประโยชน์ที่เป็นมูลค่าระหว่าง 93-150 ล้านล้านเยน คาดว่าใน 7 ปีข้างหน้า การลงทุนด้านการบุกเบิกที่ดินเพื่อโอลิมปิกเกมส์จะเป็นมูลค่า 55 ล้านล้านเยน อุตสาหกรรมด้านต่างๆ เช่น การก่อสร้าง การขนส่ง การให้บริการ และการท่องเที่ยวล้วนจะได้รับการส่งเสริมอย่างมาก ขณะเดียวกันยังจะสร้างโอกาสการทำงานกว่า 300,000 ตำแหน่ง พร้อมยังจะส่งเสริมการลงทุนของวิสาหกิจ และการบริโภคของประชาชนด้วย มีส่วนช่วยเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโต 0.4-0.6% ต่อปี รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่า หลังจากญี่ปุ่นจัดงานโอลิมปิกเกมส์ปี 2020 แล้ว เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเข้าสู่ระยะใหม่ โดยอาจจะเติบโตเป็น 2-3% ต่อปี แก้ไขสภาพเศรษฐกิจซบเซาอย่างเต็มที่

Yim/Ldan