ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้ออุตสาหกรรมการผลิตหรือ PMI ของจีนที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า เติบโตจากระดับ 50.2% เดือนกุมภาพันธ์เป็น 50.3% ในเดือนมีนาคม ถือว่ากระเตื้องขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นของจีนเติบโตตามไปด้วยในช่วงต้นเดือนเมษายน นักวิชาการไม่น้อยเห็นพ้องกันว่าเป็นข่าวที่ดี แต่ยังต่ำกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้นักวิเคราะห์กลุ่มหนึ่งคาดว่า รัฐบาลอาจต้องใช้มาตรการกระตุ้นการเติบโต
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้ออุตสาหกรรมหรือ PMI เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้ล่วงหน้าของเศรษฐกิจมหาภาค โดยจะถือระดับ 50% เป็นเส้นแบ่งระหว่างความเจริญกับความซบเซาทางเศรษฐกิจ
นายหวัง จุน นักวิจชาการจากศูนย์แลกเปลี่ยนเศรษฐกิจนานาชาติของจีนเห็นว่า สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้ดัชนี PMI เติบโตในเดือนมีนาคมคือความต้องการของตลาดต่างประเทศขยายตัว ส่วนความต้องการภายในประเทศยังคงอ่อนแรง
"อัตราการเติบโตของดัชนี PMI ในเดือนมีนาคมยังไม่สูงเท่าไร พิจารณาจากดัชนีย่อยหลายตัวแล้วสรุปได้ว่า ความต้องการจากตลาดประเทศเพิ่มมากขึ้นเป็นพลังขับเคลื่อน ส่วนตลาดภายในจีนเองยังคงไม่พ้นออกจากภาวะซบเซา โดยเฉพาะจำนวนใบสั่งซื้อและดัชนีราคาซื้อเข้า"
มีรายงานว่า ดัชนีใบสั่งซื้อใหม่ในเดือนมีนาคมกระเตื้องเพียง 0.1% ขณะที่เมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 3.5% ซึ่งสะท้อนว่า การผลิตได้รับผลกระทบจากปัจจัยต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น และยังขาดแคลนการลงทุน ดังนั้น ต้องกระตุ้นตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้น
NUNE/FENG