หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้ารายงานว่า วันที่ 5 พฤษภาคมนี้ นายแดนนี ลี เชียนซง ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาธารณะของสำนักงานเลขาธิการอาเซียนเขียนบทความเรื่อง "การพัฒนาของจีนเป็นเรื่องดีสำหรับอาเซียน" ลงหนังสือพิม์เหรินหมินรึเป้า โดยระบุว่า การแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรม ทำให้ประชากรเกือบ 2,000 ล้านคนของจีนและประเทศอาเซียนได้รับผลประโยชน์อย่างมาก

บทความดังกล่าวระบุว่า ประชาชนประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ทราบเรื่อง "เจิ้งเหอเดินเรือข้ามมหาสมุทรอินเดีย" ในสมัยโบราณก็มีชาวจีนเดินทางไปติดต่อค้าขาย หรืออพยพไปตั้งถิ่นฐานที่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงได้มีตำนานและโบราณสถานจีนจำนวนมากในประเทศเหล่านี้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การไปมาหาสู่อย่างฉันมิตรระหว่างจีนกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศตะวันตกที่เป็นลัทธิล่าอาณานิคมเคยนำมาซึ่งสงครามสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่หน่วยเรือจีนนำมาซึ่งแพรไหมและใบชา ได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมระหว่างจีนกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การสร้างเส้นทางแพรไหมทางทะเลในสมัยใหม่นั้น มีความหมายสำคัญอย่างยิ่ง ตามการพัฒนาการไปมาหาสู่ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอาเซียน คาดว่า เป้าหมายที่จะบรรลุยอดการค้าทวิภาคีระหว่างสองฝ่ายที่มีมูลค่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 นั้น จะกลายเป็นจริงขึ้นก่อนเวลาที่คาดไว้ ปัจจุบัน จีนกับอาเซียนกำลังพยายามยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน และพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน เป็นต้น เขตการค้าเสรีที่ยกระดับขึ้นนั้น จะให้แรงกระตุ้นที่ใหญ่ขึ้นแก่การพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค

การสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลยุคใหม่นั้น ยังหมายความถึง ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างจีนกับประเทศอาเซียนจะพัฒนาอีกขั้นหนึ่ง ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างมีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์ และค่อยๆ กลายเป็นเป้าหมายการเดินทางอันดับแรกของชาวจีน ดังนั้น เส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 ได้มีความหมายใหม่ เช่น บุกเบิกโครงการท่องเที่ยวทางทะเล โครงการท่องเที่ยวล่องเรือสำราญ และโครงการท่องเที่ยวด้วยตนเอง เป็นต้น การที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นนั้น จะยกระดับการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนจีนและอาเซียน และส่งเสริมพื้นฐานด้านมิตรภาพระหว่างสองฝ่ายด้วย

Yim/Ldan