เทียนสิน เมืองใหญ่ใน คราบไคลของ อารยธรรมที่หลงเหลือไว้ จากชาติตะวันตก
  2014-06-02 15:47:49  cri

มองเมืองจีนในสายตานักข่าวกีฬาไทย

ยังไม่ได้ไปไหนไกลเลยครับ ตอนนี้ยังคงวนเวียน อยู่ที่เมือง เทียนจิน หรือ เทียนสิน นั่นแหละครับ เพราะความที่เป็นเมืองใหญ่ อยู่ไม่ไกลจาก ปักกิ่ง แล้วแถมเป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อการคงอยู่หรือล่มสลายของประเทศ จีน ด้วย ต้องว่ากันยาวหน่อยครับ วันนี้ เราจะมาว่ากันด้วย สถาปัตยกรรมของชาติตะวันตกที่มีอยู่ในเมืองเทียนสิน อย่างที่ทราบนั่นแหละครับ เทียนสิน เมื่อประมาณ ๑๕๐ ปีก่อน จัดเป็นเขตพิเศษที่ให้ชาวต่างชาติเข้ามาอยู่และตั้งเป็นเขตของตนเองขึ้นมา ด้วยข้ออ้างของการเข้ามาทำการค้า แต่เป้าหมายก็คือ การล่าอาณษนิคม นั่นแหละครับ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ทั้งการยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกในราชสำนัก ของราชวงศ์ ชิง หรือราชวงศ์แมนจู ทั้งนำฝิ่นเข้ามา มอมเมาประชาชน และสารพัดรูปแบบ ไม่พอใจก็รวมพล แสดงแสนยานุภาพ บุกเข้ากรุง ปักกิ่ง เผาทำลาย พระราชวัง ฤดูร้อน อี้ เหอ หยวน สองครั้งใหญ่ๆ แต่เมื่อเกิด สงครามโลกครั้งที่ ๒ ชาติตะวันตกเหล่านี้ ก็เกิดความแตกแยกกันเอง ฝ่ายหนึ่งเป็นสัมพันธมิตร อีกฝ่ายก็ อักษะ พอจบสงครามโลก ครั้งที่ ๒ ก็เกิดปฏิวัติ ขึ้นในจีน โค่นล้มระบบราชวงศ์ เปลี่ยนการปกครองไปเป็นสาธารณรัฐ ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นระบอบคอมมูนิสต์ ทำให้ ชาวต่างชาติทั้งหลายแหล่ ต้องทิ้งบ้านเรือน ที่ลงทุนลงแรง ปลูกสร้างตามแบบอารยธรรมของตัวเองไป ก็ด้วยปัจจัยด้านความปลอดภัย เป็นหลักนั่นแหละครับ สิ่งปลูกสร้างที่คงเอกลักษณ์และสถาปัตยกรรมของชาติตนเลยตกเป็นของชนชาวจีน

ซึ่งแต่ละชาติที่เข้ามาอยู่ ก็มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ถ้าเป็นอังกฤษ ก็ดูได้ตั้งแต่ ทางเข้าบ้านประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่มีรูปสิงโตคู่ แล้วต้องมีวงเวียนน้ำพุ อยู่หน้าบ้าน หรือถ้าเป็นสไตล์ฝรั่งเศสก็ต้องมีลักษณะลวดลายปูนปั้น เป็นรูปเกลียวเชือก และการก่อสร้าง ซุ้งประตูหน้าต่าง มันมีเรื่องราวบอกไว้อย่างชัดเจนครับ อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า หลังจากที่มีการปกครองเป็นระบอบคอมมูนิสต์ ทุกอย่างต้องตกเป็นของรัฐ บ้านเก่า บ้านสวยเหล่านี้ จึงถูกคนจีน ในยุคสมัยนั้น เข้ามายึดครองจับจองกัน คนละห้อง สองห้อง บางครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ก็ยึดไว้ทั้งหลัง ซึ่งเราก็จะยังเห็นอยู่แต่ต้องเดินเข้าไป ตามตรอกซอกซอยนะครับ เพราะ บ้านหลังใหญ่ติดริมถนน น่ะ เขาปรับปรุงจนดูสวยงามสง่าหมดแล้ว

เขาว่ากันว่า ในสมัยนี้ ใครอยากจะมีบ้านสไตล์ยุโรปแบบที่ เห็นอยู่ในเมืองเทียนสินสักหลังนี่ ต้องกำเงินมาเป็น ร้อยล้านนะครับ ย้ำร้อยล้านครับ เพราะราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปก็ตกอยู่ที่ประมาณ ตารางเมตรละ สี่หมื่นถึงห้าหมื่นบาท แล้วถ้าต้องการความขลังแบบนี้ด้วยแล้ว รับรองครับว่าเป็นงานช้าง แต่ก็มีเศรษฐีใหม่ ของจีนในขณะนี้ที่หลายคน สนใจในการที่จะเป็นเจ้าของ บ้านสไตล์ยุโรป ประเภท แพงไม่ว่า หน้าตามาก่อน อยู่เยอะนะครับ

แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้ว นึก จะต่อจะแต่ง จะเติม อย่างที่ใจคิด ไม่ได้นะครับ เพราะบ้านในสไตล์แบบนี้ ทางการของเมือง เทียนสิน เขาขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานไว้หมดเกือบทุกหลังนะครับ แม้ว่าจะดู โทรมอย่างไรก็ตาม ถ้าหากต้องการปรับปรุงก็ต้อง ได้รับอนุญาต จาก ทางการก่อนนะครับ จะเที่ยวไป รื้อ ทุบ ทำใหม่ ตามใจฉัน เพราะฉันมีเงินน่ะ โดนริบเงินค่าซื้อบ้าน

เอาง่ายๆนะครับ ของเขาแรง

เขียนมาถึงตรงนี้ อยากให้ที่เมืองไทย มีการขึ้นทะเบียน บ้านเก่า หรือสถานที่สำคัญบางแห่ง เป็นโบราณสถาน แล้ว เอาให้เข้มแบบที่ เทียนสินนะครับ ผมว่า น่าจะเป็นจุดท่องเที่ยว หรือ แลนด์มารค์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง กรุงเทพก็เยอะ เยาวราช ทรงวาด ต่อมาสาทร แล้วที่ภูเก็ต สไตล์ ชิโน โปรตุกีส ที่เชียงใหม่ แถววัดพระสิงห์ แต่เคยเห็นว่างามเมื่อ สามสิบปีก่อน แล้วไหง เดี๋ยวนี้ไป กลายเป็นห้าง เอาจริงกันดีไหมครับ ไปเห็นของเขา เอามาเทียบกับเมืองไทยเราแล้ว บอกคำเดียวครับ เสียดาย

มาถึงตรงนี้ต้องบอกเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่เป็นแฟนคลับทั้งหลาย ที่เป็นผู้ชื่นชอบในการถ่ายรูป และชมงานสถาปัตยกรรม รวมถึงศิลปะด้านต่างๆ มีโอกาสมาเยือน กรุงปักกิ่ง แวะกันมาสักนิดนะครับ ที่เมือง เทียนสินแห่งนี้ ท่านจะต้องทั้ง อึ้ง ทึ่ง และสนุก ไปกับการเดินครับ ตอนหน้า มาว่ากันถึงสะพาน ที่งามงด ดังกับยกสะพานใน กรุงโรม มาไว้ที่นี่ แต่มีที่พิสดารกว่านั้นครับ อย่าลืมติดตาม

สมภพ จันทร์ฟัก

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040