นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้เข้าร่วมกิจกรรมและกล่าวคำปราศรัยว่า วันนี้ เราจัดกิจกรรมรำลึกสงครามต่อต้านญี่ปุ่นครบรอบ 77 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะจดจำประวัติศาสตร์ให้แม่นยำ ระลึกและไว้อาลัยวีรบุรุษผู้ล่วงลับ รักษาสันติภาพในปัจุบันและอนาคต ยืนหยัดเดินบนหนทางการพัฒนาอย่างสันติ รักษาสันติภาพของโลกอย่างแน่วแน่
นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม 1937 (พ.ศ. 2480) ทหารญี่ปุ่นมุ่งหมายที่จะใช้กำลังอาวุธบุกรุกและยึดครองทั่วประเทศจีน โดยยิงปืนใส่เขตเมืองหว่านผิงเฉิง ก่อเหตุการณ์สะพานหลูโกวเฉียวที่สะเทือนใจชาวโลกทั่วไปในสมัยนั้น นับเป็นการเริ่มต้นสงครามรุกรานจีน ทำให้ประชาชาติจีนตกในสภาพที่อันตรายที่สุด
สงครามต่อต้านญี่ปุ่นของประชาชนจีนที่ยิ่งใหญ่ เป็นวาระสำคัญในตำราประวัติศาสตร์ของการใช้ความพยายามเพื่อความเป็นเอกราชและอิสรภาพของประชาชนจีน เป็นสนามรบสำคัญทางด้านตะวันออกของสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ของโลก ได้สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่สำหรับการกู้ประชาชาติจีน และการรักษาสันติภาพของโลก
นายสี จิ้นผิงยังชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่น่าเสียดายคือ ในวาระที่สงครามต่อต้านญี่ปุ่นของประชาชนจีนและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ของโลกได้ชัยชนะเกือบ 70 ปีแล้ว แต่ยังมีบางคนบางประเทศไม่มองความจริงของประวัติศาสตร์ ไม่สนใจผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคนในสงคราม และยังจะปฏิเสธสงครามรุกรานของตน ทำลายความไว้วางใจระหว่างประเทศ สร้างสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค จึงถูกประณามจากประชาชนผู้รักสันติภาพทั่วโลก รวมถึงประชาชนจีนด้วย
ข้อมูลทางการปรากฏว่า ช่วงที่ญี่ปุ่นรุกรานจีน ทหารญี่ปุ่นได้ย่ำยี่ทำลายประเทศจีนกว่าครึ่ง ยึดครองเมืองกว่า 930 แห่ง ทำให้ชาวบ้านกว่า 42 ล้านคนไม่มีที่อยู่อาศัย มีทหารและประชาชนจีนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตกว่า 35 ล้านคน มีแรงงานจีนกว่า 40,000 คนถูกเกณฑ์ไปทำงานที่ญี่ปุ่น และเสียชีวิตที่ญี่ปุ่นเกือบ 7,000 คน นอกจากนั้น ทหารญี่ปุ่นปล้นทรัพยสินมหาศาลไปด้วย รวมถึงเหล็กกล้า33.5 ล้านตัน ถ่านหิน 586 ล้านตัน
(Yim/Lin)