สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า เช้าวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ โต๊ะอิหม่ามจูเม ทาเฮียแห่งมัสยิดอิดคาห์ถูกกลุ่มก่อการร้ายสังหารจนเสียชีวิตขณะเดินทางกลับ ที่ทำงานในมัสยิด หลังนำประกอบพิธีละหมาด รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบัน ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนแล้ว และได้จับกุมผู้ก่อการร้ายหนึ่งคน ขณะที่ผู้ก่อการร้ายอีกสองคนเสียชีวิต

โต๊ะอิหม่ามจูเม ทาเฮียเป็นโต๊ะอิหม่ามในมัสยิดอิดคาห์เมืองคาสือเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซินเจียงของจีน ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่ที่สุดในจีน นอกจากนั้น เขายังเป็นรองนายกสมาคมอิสลามของซินเจียง และเคยตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 11 จึงเป็นที่เคารพอย่างสูงในหมู่ชาวมูสลิมที่คาสือ

ตั้งแต่ปี 2003 โต๊ะอิหม่ามจูเม ทาเฮียเริ่มทำงานที่มัสยิดอิดคาห์ และยังเขียนบทความประณามคำกล่าวที่ว่า ญิฮาด พลีชีพเพื่อศาสนาและขึ้นสู่สวรรต์อย่างเปิดเผย โดยระบุว่า ศาสนาอิสลามมีแนวความคิดเพื่อแสวงหาสันติภาพ คัดค้านการก่อการร้าย พวกก่อการร้ายที่สังหารผู้บริสุทธิ์ได้ฝ่าฝืนหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม การสังหารชีวิตโดยไร้เหตุผลเป็นโทษสำคัญ ต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง ชาวมุสลิมคนหนึ่งในเมืองคาสือกล่าวว่า โต๊ะอิหม่ามจูเม ทาเฮียเป็นศาสนิกที่รักชาติ เขามีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านศาสนา คิดไม่ถึงว่า กลุ่มก่อการร้ายจะลงมือสังหารผู้อาวุโสที่น่ารักและใจดีอย่างนี้

นานมาแล้ว อิหม่ามผู้รักชาติได้ท่ายทอดความเชื่อถือทางศาสนาตามกฎหมายให้ผู้ที่นับถือศาสนา ให้พวกเขาห่างไกลจากกลุ่มหัวรุนแรง จนถูกกลุ่มหัวรุนแรนตั้งเป็นศัตรู เมื่อปี 1996 โต๊ะอิหม่ามอายุกว่า 70 ปีในมัสยิดอิดคาห์และลูกชายของเขาก็ถูกกลุ่มก่อการร้ายลอบสังหารเสียชีวิต ผู้นำทางศาสนาที่เมืองคาสือกล่าวว่า การที่กลุ่มก่อการร้ายสังหารแกนนำทางศาสนาผู้รักชาติที่เมืองคาสือมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ศาสนิกชนไม่พอใจรัฐบาล

IN/LJ