รัฐบาลจีนกำหนดว่า ถึงปี 2020 จะพยายามให้ประชากรหลักลอยจากภาคเกษตรราว 100 ล้านคนปักหลักในเมืองและตำบล ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายการเป็นสังคมที่มีกินมีใช้ทุกด้านก่อนปี 2020
ศ.เจ้า เฉิงเกิน สถาบันรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่งระบุว่า ทั้งนี้เป็นนัยว่า ระบบทะเบียนบ้านที่แยกเป็นเมือง-ชนบทมาเป็นเวลากว่ากึ่งศตวรรษในจีนจะถึงอวสานในปี 6 ปีข้างหน้า "ซึ่งเป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญที่เป็นไปตามกระแสการบริหารสาธารณะสมัยใหม่ ส่งเสริมความเสมอภาคเท่าเทียมกันของพลเมือง จึงเป็นความก้าวหน้าเชิงประวัติศาสตร์"
ศ.หลิน หลัยฟ่าน สถาบันนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิงหวาระบุว่า พร้อมๆ กับจีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างลงลึก ระบบทะเบียนบ้านที่แยกเป็นเมือง-ชนบทนับวันเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน สร้างความเหลื่อมล้ำทางสวัสดิการและโอกาส สร้างความไม่เท่าเทียมกันระหว่างชาวเมือง-ชาวชนบทในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสังคม โดยประชากรหลายร้อยล้านคนอพยพจากภูมิลำเนาในชนบทไปทำงานรับจ้างในเมือง แต่กลับไม่อยู่ในข่ายชาวเมือง
นักวิเคราะห์เห็นว่า การปรับระบบทะเบียนบ้านโดยไม่แยกเป็นชาวเมือง-ชาวชนบทอีก โดยดำเนินการควบคู่กับการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้อง เป็นสิ่งที่ตรงกับสภาพความเป็นจริงและความต้องการพัฒนาของจีนในระยะยาว ทั้งมีส่วนส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของจีนด้วย
(IN/LING)