ในกรณีของกัมพูชา อุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมการส่งออกหลักที่สำคัญที่สุดของประเทศนั้น มีการจ้างแรงงานประมาณ 600,000 คน การส่งออกเสื้อผ้าครองสัดส่วนกว่า 80% ของยอดการส่งออกทั้งหมด ปัจจุบัน บริษัทผลิตเสื้อผ้าชื่อดังระดับโลกหลายแห่งรวมถึงบริษัทจีน ได้เข้าไปลงทุนตั้งนิยมอุตสาหกรรมในกัมพูชา เดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา ผู้แทนรัฐบาลกัมพูชา ผู้แทนจากนิคมอุตสาหกรรมและสหภาพแรงงานได้ดำเนินการเจรจาและผ่านมติปรับขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำให้แก่แรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งจากเดิมอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 128 เหรียญสหรัฐฯ แต่ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมและสหภาพแรงงานต่างมีความรู้สึกผิดหวัง เพราะรู้สึกว่ามาตรฐานเงินเดือนนี้สูงเกินไป ในขณะที่ฝ่ายสหภาพแรงงานก็ผิดหวังเช่นกันที่ท้าที่สุดปรับขึ้นเงินเดือนเป็น 128 เหรียญสหรัฐฯ จากตอนต้นที่ขอที่ 160 เหรียญ
เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามก็ได้ออกกฎหมายปรับขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำในปี 2015 เพิ่มขึ้นจากปี 2014 อีก 14% เช่นกัน จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2015
สื่อมวลชนประเทศตะวันตกรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การปรับขึ้นเงินเดือนอาจจะมองว่าส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศอาเซียน แต่แท้จริงแล้ว ระดับเงินเดือนของประเทศอาเซี่ยน โดยเฉพาะกัมพูชาและเวียดนามอยู่ในระดับที่ต่ำมาก แม้ว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนจะเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว แต่ก็ถือว่าน้อยอยู่ดี บริษัทหรือโรงงานต่างประเทศอาจจะเสียเปรียบไปบ้าง แต่ก็ยังมีกำไร การเพิ่มเงินเดือนไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการอุปโภคบริโภคของท้องถิ่น ผลักดันการพัฒนาของเศรษฐกิจ หรือมีส่วนช่วยขยายกลุ่มชนชั้นกลางให้มากขึ้นเท่านั้น หากแต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและโรงงานกิจการวิสาหกิจในอนาคตด้วย (Doon/Lin)