สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางเยือนญี่ปุ่น และเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการและตรวจเยี่ยมกองทัพสหรัฐฯ ประจำสองประเทศดังกล่าวด้วย นับเป็นครั้งแรกที่นายแอชตัน คาร์เตอร์เยือนเอเชียตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ รุ่นที่ 4 ของรัฐบาลนายบารัค โอบามา ก่อนเดินทาง นายแอชตัน คาร์เตอร์กล่าวคำปราศรัยว่าจะพยายามผลักดันยุทธศาสตร์ปรับความสมดุลใหม่เอเชีย-แปซิฟิก เป็นการกำหนดทิศทางให้การเดินทางครั้งนี้ของเขา
ภายใต้สถานการณ์ที่สภาพเอเชียตะวันออกกลางวุ่นวายมากขึ้น วิกฤตยูเครนยังคั่งค้างอยู่ การเจรจาปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านยังมีอนาคตที่ไม่แจ่มใส และพันธมิตรต่างๆ ของสหรัฐฯ ต่างก็ประกาศร่วมธนาคาร AIIB ที่จีนเสนอจัดตั้งนั้น สหรัฐฯ ต้องการเสริมสร้างบทบาทของตนในทวีปเอเชียแปซิฟิก การเดินทางของนายแอชตัน คาร์เตอร์ในครั้งนี้ก็แสดงถึงวัตถุประสงค์ด้านนี้
หลังได้รับการเลือกตั้งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมรุ่นใหม่แล้ว นายแอชตัน คาร์เตอร์กล่าวว่า จะประกันให้สหรัฐฯ มีกำลังทหารมากพอในเอเชียแปซิฟิก
นายแอชตัน คาร์เตอร์เห็นว่า สหรัฐฯ ควรเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับพันธมิตรในเอเชีย ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เร่งกลับสู่เอเชียของนายบารัค โอบามาอย่างสูง
ก่อนเดินทางมาเยือนเอเชีย นายแอชตัน คาร์เตอร์กล่าวว่า เขาจะควบคุมการใช้ยุทธศาสตร์ปรับความสมดุลใหม่ ซึ่งรวมถึงการจัดวางยุทโธปกรณ์ระดับสูงในเอเชีย ศึกษาวิจัยอาวุธระดับสูง และส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนกับพันธมิตรเอเชียแปซิฟิค ทำให้สหรัฐฯ เข้าร่วมกิจการเอเชียในระดับลุ่มลึก และหลากหลายมากขึ้น
ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น นายแอชตัน คาร์เตอร์ได้เอ่ยถึงปัญหาเกาะเตี้ยว์อี๋ว์ และปัญหาทะเลจีนใต้ โดยกล่าวคำประศรัยที่ไม่รับผิดชอบต่างๆ
ระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ นายแอชตัน คาร์เตอร์สัญญาว่าจะกระชับความร่วมมือทางทหารกับเกาหลีใต้ในปัญหาคาบสมุทรเกาหลี เกี่ยวกับปัญหาตกค้างทางประวัติศาสตร์ระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น นายแอชตัน คาร์เตอร์กล่าวว่า สหรัฐฯ เคารพปัญหาตกค้างที่ว่านี้ จะพยายามกระชับความร่วมมือด้านกำลังทหาร และข้อมูลข่าวสารระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (Yim/cici)