วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ สำนักงานศุลกากรจีนประกาศรายงานสถานการณ์นำเข้าส่งออกสินค้า ของจีนในครึ่งปีแรกนี้ว่า ยอดนำเข้าส่งออกสินค้าของจีนในครึ่งปีแรกนี้ลดลง 6.9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่า สถานการณ์นำเข้าส่งออกสินค้าของจีนในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น

วันเดียวกัน นายหวาง ซ่งผิง โฆษกสำนักงานศุลกากรจีนกล่าวในงานแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งว่า จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานศุลกากรจีน มูลค่าการนำเข้าส่งออกช่วงครึ่งปีแรกของจีนอยู่ที่ 11.53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 6.9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ คิดจากมูลค่าการส่งออกที่อยู่ที่ 6.57 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.9% ในขณะที่ยอดการนำเข้าอยู่ที่ 4.96 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 15.5% ส่วนตัวเลขเกินดุลการค้าอยู่ที่ 1.61 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า

ขณะกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์นำเข้าส่งออกสินค้าของจีนตกอยู่ในภาวะที่ไม่น่าพอใจนั้น นายหวงซ่ง ชี้ว่า ช่วงที่ผ่านมา ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจภายในประเทศได้รับแรงกดดันขาลง ขณะที่ราคาสินค้าตกต่ำ และความต้องการในต่างประเทศลดลง ทั้งนี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการนำเข้าส่งออกสินค้าของจีน

ด้านนายหวัง จูน รองหัวหน้าฝ่ายวิจัยศูนย์แลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศของจีนชี้ว่า หากมองจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก จะเห็นได้ชัดว่า จีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์การค้าต่างประเทศที่มีความสลับซับซ้อน มาก เขากล่าวว่า ช่วงหลายปีมานี้ เศรษฐกิจประเทศพัฒนาฟื้นตัวช้ามาก สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศพยายามสร้างดุลการค้ารูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับจีน ทำให้จีนต้องเผชิญกับสภาวะการค้าต่างประเทศที่มีความสลับซับซ้อน มากกว่าเดิม นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สินของประเทศกรีซที่ยังไม่คลี่คลายได้ ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของตลาดยุโรโซน ทำให้การส่งออกสินค้าจีนไปยังยุโรปและญี่ปุ่นลดลงค่อนข้างมากตาม ไปด้วย

อย่างไรก็ตาม นายหวง ซ่งผิง โฆษกสำนักงานศุลกากรจีนชี้ว่า ถึงแม้ว่าตัวเลขการนำเข้าส่งออกสินค้าของจีนในครึ่งปีแรกไม่น่าพอใจ แต่ก็มีจุดเด่นอยู่บ้าง เช่น ตลาดการส่งออกสินค้าจีนมีความหลากหลายมากขึ้น พื้นที่ที่เป็นเป้าหมายการนำเข้าและส่งออกสินค้าจีนมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น นอกจากนี้ รูปแบบการค้า และโครงสร้างการค้าก็ได้รับการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้น

สุดท้าย โฆษกสำนักด่านศุลกากรจีนกล่าวว่า ในวันข้างหน้า จีนจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การค้าต่างประเทศที่มี ลักษณะใหม่ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยจะเร่งพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยกระดับคุณภาพสินค้า และบริการ เพิ่มบทบาทของจีนในกระบวนการการผลิตโลก

(TOON/cai)