นายจาง จื้อจูน กล่าวว่า การพบปะครั้งนี้ถือเป็นการเปิดช่องทางการแลกเปลี่ยนโดยตรงระหว่างผู้นำสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน จึงเป็นประโยชน์มากต่อการเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจกัน สร้างพื้นฐานการเมืองร่วมกันที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่ง และรักษาสันติภาพ เสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ด้วยสาเหตุเหล่านี้ การพบปะครั้งนี้จึงเป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่งในประวัติการพัฒนา ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
นายจาง จื้อจูน ยังกล่าวว่า เรามีท่าทีที่แข็งขันและเปิดกว้างต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่ง โดยเสนอให้จัดการพบปะระหว่างผู้นำสองฝั่งขึ้นโดยตลอด ช่วง 7 ปีที่ผ่านมา สองฝั่งมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น และได้ประสบความสำเร็จมากในการเปิดช่องทางการพัฒนา ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งอย่างสันติ ทั้งนี้ดำเนินการบนพื้นฐานการเมืองร่วมกัน คือยืนหยัดใน "ข้อตกลงปี 1992" และคัดค้านความเป็นเอกราชของไต้หวัน เมื่อเร็วๆ นี้ นายจาง จื้อจูนพบปะนายเซี่ย ลี่เหยน ประธานคณะกรรมการกิจการแผ่นดินไหญ่ของไต้หวันที่นครกว่างโจว จากการหารืออย่างละเอียด ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า จะให้มีการพบปะระหว่างผู้นำสองฟากฝั่งที่ประเทศสิงคโปร์
นายจาง จื้อจูนเผยว่า ระหว่างการพบปะ ผู้นำสองฝั่งจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาความ สัมพันธ์ระหว่างสองฝั่ง และหารือในประเด็นสำคัญอื่นๆ เช่น ลงลึกการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านต่างๆ อีกทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนสองฝั่ง ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาสันติภาพ และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน หลังการพบปะสิ้นสุดลง ผู้นำสองฟากฝั่งยังจะร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วย
สุดท้าย นายจาง จื้อจูน กล่าวว่า ขณะนี้ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งกำลังอยู่ในช่วงระยะเวลาที่สำคัญมาก เพราะจะต้องตอบคำถามว่า จะให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งในอนาคตเดินไปสู่ทิศทางใด พี่น้องร่วมชาติสองฟากฝั่งมีความปรารถนาที่เห็นมีการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน มีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งอย่างสันติ และมีการสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนทั้งสองฝั่งมากขึ้น การพบปะระหว่างผู้นำสองฟากฝั่งครั้งนี้จึงมีความหมายสำคัญยิ่ง ซึ่งสอดคล้องกับความปรารถนาของพี่น้องสองฟากฝั่ง และสอดคล้องกับกระแสแห่งยุคสมัย อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องทางการแลกเปลี่ยนโดยตรงระหว่างผู้นำสอง ฟากฝั่งช่องแคบไต้หวัน
(IN/cai)
