วันที่ 25 พฤศจิกายน กระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุงปารีสระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ จะเยือนซิมบับเวระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม และจะเยือนแอฟริกาใต้ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม และร่วมการประชุมสุดยอดฟอรั่มความร่วมมือจีน-แอฟริกาที่กรุงโจฮันเนสเบิร์ก ขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่วนการเยือนแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า เป็นการเยือนแอฟริกาที่มีระดับสูงสุด เกี่ยวถึงวงกว้างที่สุดและมีความสำคัญที่สุดในช่วงปีหลังๆ มานี้ เป็นการเยือนครั้งสุดท้ายของภารกิจการต่างประเทศจีนในปี 2015

การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 21 ภายใต้กรอบสนธิสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายนถึงวันที่ 11 ธันวาคม เนื่องจากที่ประชุมจะบรรลุซึ่งข้อตกลงใหม่เกี่ยวกับกลไกระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลังปี 2020 จึงได้รับความสนใจอย่างยิ่ง จะมีผู้นำจาก 138 ประเทศร่วมประชุม นายหลิว เจิ้นหมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะร่วมพิธีเปิดวันที่ 30 พฤศจิกายน อรรถาธิบายความเห็นและจุดยืนของจีนในการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศ จีนหวังว่า ภายใต้การนำทางการเมืองของผู้นำประเทศต่างๆ และการใช้ความพยายามร่วมกันของฝ่ายต่างๆ ที่ประชุมครั้งนี้จะประสบผลที่มีความสมดุลทุกด้านได้ เขากล่าวว่า

"จีนมีความหวัง 4 ประการ คือ 1. ยืนหยัดหลักการ ข้อตกลงปารีสควรยืนหยัดในหลักการและข้อกำหนดของกรอบสันธิสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ โดยเฉพาะหลักการความรับผิดชอบร่วมกันแต่มีความแตกต่างกัน 2. มีความสมดุลทุกด้าน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลังปี 2020 ไม่ควรเน้นปัญหาการลดการปล่อยคาร์บอนเท่านั้น ยังต้องจัดการกับปัญหาที่ประเทสกำลังพัฒนาสนใจ เช่นเงินทุนและการโอนเทคโนโลยี 3. ชี้นำทิศทาง การประชุมปารีสควรส่งสัญญาณชัดเจนต่อทั่วโลกว่า จะต้องมีการพัฒนาสีเขียว คาร์บอนต่ำ และ4. เสนอหลักประกัน และเงินทุนอันพอเพียงในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้เป็นความสนใจสำคัญของบรรดาประเทศกำลังพัฒนา

In/LR