ระหว่างปี 2007-2010 ถ้าถามว่า ในทั่วโลก ราคาบ้านและที่ดินของประเทศใดมีการเติบโตพุ่งสูงขึ้นคล้ายกับตลาดของจีนนั่น คำตอบที่ได้ก็คือเวียดนาม เนื่องจากอุปทานไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ทำให้ราคาบ้านในเวียดนามมีบางช่วงขยับสูงขึ้นต่อเนื่องเกือบทุกวัน และเนื่องจากราคาบ้านพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามเกิดฟองสบู่ จนส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตลาดการลงทุน และแรงงาน

ปัจจุบัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนามได้ค่อยๆสงบลงแล้ว แต่ว่า ในช่วงใกล้นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจมีการฟื้นฟู และนโยบายการซื้อบ้านได้รับการปรับปรุงเป็นต้น ทำให้ราคาบ้านถีบตัวสูงขึ้นอีก อัตราการค้าบ้านและที่ดินเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนไม่น้อยรู้สึกเป็นกังวลอีกครั้งว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามจะเกิดฟองสบู่อีกครั้งหรือไม่ และสิ่งที่น่าวิตกคือ พฤติกรรมการกู้เงินจำนวนมากเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คงอาจจะก่อให้เกิดปัญหาอย่างร้ายแรง

ผู้ว่าการธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ถประจำเวียดนาม กัมพูชาและลาวกล่าวว่า เนื่องจากการกู้เงินซื้อบ้านจากธนาคารเวียดนามค่อนข้างง่าย จนทำให้ตลาดจำนองบ้านในเวียดนามเติบโตขึ้นเป็น 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ขณะเดียวกัน เวียดนามจะใช้นโยบายอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านที่เวียดนามได้ ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติแห่มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เวียดนาม ซึ่งทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามปรากฏสภาพการฟื้นฟู แต่ขณะเดียวกันก็เป็นอันตรายด้วย

นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เวียดนามระบุว่า นโยบายด้านอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามในปัจจุบันมีผลดีต่อการพัฒนาอย่างมั่นคงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนชาวต่างชาติจะมีเงื่อนไขที่ดีและเวลาจำกัดมากขึ้นเพื่อดูงานรายละเอียด ด้วยเหตุนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนามจะมีสภาพการพัฒนาที่ดีและมีระบบระเบียบมากขึ้น และไม่เกิดฟองสบู่เสมือนกับช่วงปี 2007-2010

YIM/LJ