สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรงเปิดเผยว่า หลังจากได้ทำการก่อการร้ายอย่างรุนแรงติดต่อกันหลายครั้งแล้ว กลุ่มไอซิสที่ตั้งฐานที่มั่นในอาณาเขตของอิรักและซีเรียกำลังถูกโจมตีทางอากาศและการโจมตีแบบโอบล้อมรอบด้านอย่างหนักขึ้นทุกที จนทำให้กลุ่มไอซิสต้องลดการก่อเหตุก่อการร้ายน้อยลง เข้าสู่ขั้นตอนการป้องกัน

เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เครื่องบินรัสเซียลำหนึ่งตกที่คาบสมุทรไซนาย ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเครื่องบินทั้งหมด 224 คนเสียชีวิต ฝ่ายรัสเซียยืนยันว่า เหตุการณ์นี้มาจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกิดเหตุก่อการร้ายในหลายพื้นที่ของกรุงปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 129 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 350 คน หลังจากกลุ่มไอซิสออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวแล้ว ทั้งประเทศรัสเซียและประเทศฝรั่งเศสต่างเพิ่มกำลังการโจมตีทางอากาศอย่างมาก

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยบางคนเห็นว่า อันที่จริงแล้ว กลุ่มไอซิสก็เคยก่อการร้ายที่น่าสยดสยองหลายครั้ง แม้ได้รับการโจมตีและการคว่ำบาตรก็ไม่หยุดการขยายตัว แต่หลังจากที่กลุ่มไอซิสได้ปฏิบัติการเลวร้ายอย่างต่อเนื่องจึงถูกประเทศต่าง ๆ มุ่งโจมตีกลับมากขึ้น

นายฮิชาม อัล ฮาซีมี (Hisham al-Hashemi) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยชาวอิรักกล่าวว่า หลายเดือนมานี้ ฐานที่มั่นของกลุ่มไอซิสที่อยู่ในอิรักและซีเรียนั้น ส่วนใหญ่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการป้องกัน ไม่มีโอกาสที่จะไปก่อการโจมตีได้แล้ว

นายฮิชาม อัล ฮาซีมีเห็นว่า ช่วงนี้ ทั้งสหรัฐฯและรัสเซียได้เพิ่มกำลังการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอซิส ตลอดจนฝรั่งเศสและอังกฤษได้ร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ซึ่งเป็นแรงกดดันที่หนักมากต่อกลุ่มไอซิส ทำให้ไม่สามารถรวบรวมสมาชิกติดอาวุธจำนวนมากได้เช่นเคย โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัสเซียเริ่มทำการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอซิส ได้ทำลายอุปกรณ์ทางทหาร รถยนต์ และสิ่งอํานวยความสะดวกสําหรับการขุดปิโตรเลียมของกลุ่มไอซิสเป็นจำนวนมาก

เส้นทางการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ที่สำคัญหลายเส้นก็ถูกตัดขาดไป ดังนั้น นายฮิชาม อัล ฮาซีมีเห็นว่า กองกำลังสนับสนุนของกลุ่มไอซิส " เกือบจะหมดสิ้นไปแล้ว " ขณะเดียวกัน มือระเบิดพลีชีพซึ่งถือเป็นวิธีสำคัญของการก่อเหตุการร้ายของกลุ่มไอซิสก็กำลังลดจำนวนลง

( Yim/Zi)